เปิดตำแหน่ง ตำรวจ ยศ พ.ต.อ. โกงข้อสอบ หน้าที่การงานไม่ธรรมดา

เกิดกระแสฮือฮาขึ้นในโลกออนไลน์หลังจากมีรายงานว่า ในการสอบตุลาการศาลปกครองชั้นต้น มีการจับผู้สอบทุจริตกลางห้องสอบ โดยผู้สอบรายนี้เป็นตำรวจยศ พ.ต.อ. ที่ถูกจับได้ว่าโกงข้อสอบอย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีการถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตรวจพบโพยข้อสอบจำนวนมากที่ถูกซ่อนไว้ในที่ที่ไม่ค่อยเนียน และสุดท้ายก็ถูกผู้คุมสอบจับได้ในที่สุด

ล่าสุด พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กรณีดังกล่าว โดยชี้แจงว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ข้าราชการตำรวจคนดังกล่าวคือ พ.ต.อ. ตำแหน่ง รอง ผบก.อก.ภ.8 ซึ่งมีคำสั่งไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 

เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยในช่วงบ่ายของวันเสาร์นั้น การสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้นได้จัดขึ้นที่ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งในระหว่างการสอบ ตุลาการศาลปกครองที่ทำหน้าที่คุมสอบได้ตรวจพบการทุจริตการสอบเมื่อผู้สอบได้พยายามนำโพยเข้าไปลอกในสนามสอบ จึงได้ประสานมายัง ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี (ภ.จว.ปทุมธานี)

พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อธิเมศร์ ไชยศรัณวิชย์ ผกก.สภ.คลองหลวง ได้เดินทางไปยังศูนย์สอบและพบกับคณะตุลาการที่ควบคุมการสอบ คุยกับข้าราชการตำรวจรายดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวยินยอมให้บันทึกถ้อยคำ และทางคณะตุลาการได้แจ้งว่าจะประชุมสรุปข้อเท็จจริงและเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการต่อไป

พล.ต.ท.อาชยน ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ผบ.ตร.ได้สั่งย้ำให้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ให้ ภ.จว.ปทุมธานี ประสานกับ สำนักงานศาลปกครอง เพื่อดำเนินการตามข้อเท็จจริง และสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ ผบ.ตร.ยังได้สั่งการให้หน่วยงานต้นสังกัดของผู้สอบทุจริตดำเนินการทางวินัยทันที หากพบว่าผิดจริง ก็ถือเป็นวินัยร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 112 (6) ที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ซึ่งจะต้องได้รับผลกระทบทั้งในด้านการปฏิบัติราชการและการพิจารณาการพักราชการ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องของการไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ว่าเป็นการขาดจากต้นสังกัดหรือไม่ และการไปสอบนั้นมีความถูกต้องตามระเบียบหรือไม่

โฆษกตำรวจ กล่าวย้ำว่า ผบ.ตร. จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทั้งในส่วนของคดีอาญาและการดำเนินการทางวินัย เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง พร้อมทั้งเตือนว่าการทุจริตในเรื่องสำคัญเช่นนี้ไม่สามารถยอมรับได้ และจะเร่งรัดดำเนินการในทุกมิติอย่างเด็ดขาด