กรมอุตุฯ เตือนด่วน 21 จังหวัดรับมือพายุฤดูร้อน กทม. โดนด้วย

16 มีนาคม 2568

นอกจากพายุฤดูร้อนแล้ว กรมอุตุฯ ยังเตือนว่าหลังจากพายุผ่านพ้นไป อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็วถึง 8 องศาเซลเซียส เตรียมพร้อมรับมือ กทม. มีฝนด้วย

กรมอุตุเตือนด่วน 21 จังหวัดรับมือพายุฤดูร้อน พรุ่งนี้ กทม.ไม่รอด กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฉบับที่ 5 ให้ประชาชนใน 21 จังหวัดทั่วประเทศเตรียมรับมือกับพายุฤดูร้อนที่จะพัดถล่มในวันพรุ่งนี้ โดยคาดการณ์ว่าจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนนี้ด้วย

กรมอุตุ เตือนด่วน 21 จังหวัดรับมือพายุฤดูร้อน พรุ่งนี้ กทม.ไม่รอด

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 (58/2568) เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีผลกระทบบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 16-20 มีนาคม 2568

ระบุว่า ช่วงวันที่ 16-20 มี.ค 68 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีสภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในช่วงวันที่ 16-17 มี.ค.68 หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5-8 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตร และสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
 

กรมอุตุ เตือนด่วน 21 จังหวัดรับมือพายุฤดูร้อน พรุ่งนี้ กทม.ไม่รอด

 

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 16 มีนาคม 2568

ภาคเหนือ: จังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

 

วันที่ 17 มีนาคม 2568

ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ กำแพงเพชร สุโขทัย และตาก

ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น

 

ในช่วงวันที่ 17-20 มี.ค. 68 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างและห่างฝั่งทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

 

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง