ดราม่าร้อนแรงในโซเชียลเกิดขึ้นเมื่อ ตั้ม อดีตสามีของ CEO สาวชื่อดังออกมาแฉว่าอดีตภรรยาของเขาซึ่งเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังนอกใจไปมีความสัมพันธ์กับนักร้องดังจนส่งผลให้ทั้งสองจบลงที่การหย่าร้าง
โดยตั้มเพิ่งทราบเรื่องทั้งหมดเมื่อเห็นข่าว และอ้างว่าเขาถูกหลอกให้เซ็นใบหย่า แต่ยังคงคบหาและอยู่กับอดีตภรรยา ทรัพย์สินที่ทำมาด้วยกันทั้งหมดก็อยู่ในชื่อของอดีตภรรยา และนำไปประเคนให้นักร้องดัง ซึ่งทำให้ตั้มรู้สึกเจ็บปวดที่สุดคือตอนที่เขาถูกห้ามไม่ให้เข้าบ้าน ทั้งๆ ที่บ้านหลังนั้นถือเป็นของเขาด้วย
หลังจากที่ตั้มออกมาแฉในรายการโหนกระแส ฝั่งของจ๊ะโอ๋ งามพริ้ง ก็ได้ออกมาตอบโต้ในรายการเดียวกัน โดยเธอเล่าถึงความสัมพันธ์กับตั้มว่า แม้จะคบกันได้ไม่นาน แต่เธอก็ท้องและเลี้ยงลูกกับเขามา 6-7 ปี ก่อนจะเลิกรากันไป เธอเปิดเผยว่าเธอไม่รักตั้มแล้วและพยายามแยกห้องกันอยู่ จนกระทั่งเกิดข่าวกับนักร้องดัง และยืนยันว่าได้บอกตั้มว่า "หัวใจของหนูไปอยู่ที่พี่หนุ่มแล้ว" และยอมรับว่าเธอพูดแบบนี้จริงๆ
ในรายการจ๊ะโอ๋ยังเปิดเผยถึงเรื่องราวอื่นๆ เกี่ยวกับตั้ม อดีตสามี เช่น การที่ต้องยอมให้เขาจุ๊บก่อนออกจากบ้าน และการข่มขู่ด้วยการเอาปืนจ่อใส่ลูก นอกจากนี้ จ๊ะโอ๋ยังยอมรับว่าเธอทำผิดในหลายๆ เรื่องและพร้อมที่จะรับคำด่าตำหนิจากสังคม สำหรับกรณีของหนุ่ม กะลา และจูน เพ็ญชุลี
หนุ่ม กรรชัยกล่าวว่า ถ้าไม่มีเรื่องนี้มาก่อน จ๊ะโอ๋อาจจะได้รับความเข้าใจจากคนมากขึ้น เพราะหลายสิ่งที่เธอพูดสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด พร้อมกันนี้จ๊ะโอ๋ยังได้พูดถึงความสัมพันธ์ล่าสุดกับหนุ่ม กะลา ว่าเธอรู้สึกผิดที่ทำร้ายความรู้สึกของเขาและครอบครัว พร้อมขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยไม่สามารถตอบได้ว่าจะยังไงต่อไปในอนาคต
พร้อมกันนี้ช่วงตอนหนึ่ง เมื่อถามว่า ไม่กลัวหรือที่มาออกรายการ แล้วพูดอะไรแบบนี้ คิดไหมว่ากระแสสังคมอาจจะไม่เชื่อ และยังด่าเราอยู่ จ๊ะโอ๋ ยืนยันว่าถ้าจะมีคนด่าก็ต้องยอมรับ เพราะตนทำผิดมาก่อน เคยทำเรื่องที่ผิดต่อครอบครัวของ หนุ่ม กะลา กับ จูน เพ็ญชุลี ยอมรับว่าในเรื่องนั้นเราทำเรื่องที่ผิดจริงๆ ถือเป็นครั้งแรกที่จ๊ะโอ๋ได้ออกมาพูดขอโทษต่อเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ