เฉลยแล้ว ไอแล้วมีเสมหะ ควรคายหรือกลืนลงไปดีกว่ากัน

04 มีนาคม 2568

หมอแนะนำเอง ถ้าป่วยแล้วมีอาการไอ - เสมหะที่ออกมา ควรคายทิ้ง หรือ กลืนลงไปดีกว่ากัน บอกเลยคำตอบหลายคนคาดไม่ถึงแน่ๆ

อาการไอและเสมหะข้นเหนียวเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายคนรู้สึกไม่สบายตัว และบางครั้งอาจกลืนลงไปโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งบางคนอาจกังวลว่าจะทำให้ติดเชื้อซ้ำ แต่ความจริงแล้วเสมหะมีประโยชน์ต่อร่างกาย และไม่ต้องกังวลหากกลืนลงไป

 

เฉลยแล้ว ไอแล้วมีเสมหะ ควรคายหรือกลืนลงไปดีกว่ากัน

นพ.เฉินเลี่ยงอวี่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก อธิบายว่า เสมหะเกิดจากการที่ร่างกายกำจัดเชื้อโรค โดยเป็นซากของเซลล์เม็ดเลือดขาวและเชื้อโรคที่ตายแล้ว การกลืนเสมหะไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ เพราะกระเพาะอาหารมีกรดที่สามารถฆ่าเชื้อเหล่านั้นได้หมดจด หากไม่สะดวกคายเสมหะออกก็สามารถกลืนลงไปได้โดยไม่ต้องกังวล

 

นอกจากนี้ นพ.เฉินยังกล่าวว่า ในประเทศที่ให้ความสำคัญกับมารยาทอย่างไต้หวัน หากอยู่ข้างนอกและไม่มีที่สะดวกในการคายเสมหะ การกลืนลงไปถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยเขาเตือนว่าเมื่อมีอาการไอหรือเป็นหวัด ควรใช้แขนหรือทิชชู่ปิดปากให้มิดชิดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค หากต้องคายเสมหะออก ควรใช้ทิชชู่ห่อแล้วทิ้งในถังขยะเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อให้ผู้อื่น

เฉลยแล้ว ไอแล้วมีเสมหะ ควรคายหรือกลืนลงไปดีกว่ากัน

 

ในด้านของ นพ.หวู จ้าวควน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ร่างกายจะผลิตเสมหะประมาณ 500 ซีซีต่อวัน ซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูดซับเชื้อโรคและเศษซากเซลล์ต่างๆ เพื่อลดการระคายเคืองและสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดในทางเดินหายใจ เขายังย้ำว่าเสมหะที่ไอออกมา หากไม่ได้คายออกและกลืนลงไป จะถูกส่งไปยังกระเพาะอาหารโดยไม่กลับไปที่หลอดลมหรือปอด ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เสมหะสะสมมากขึ้นหรือเกิดการติดเชื้อซ้ำ

 

สำหรับคนส่วนใหญ่ที่สามารถคายเสมหะออกได้ อาจรู้สึกสบายตัวมากกว่า แต่หากอยู่ในที่สาธารณะ การกลืนเสมหะลงไปก็ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหารมีค่า pH ใกล้เคียงกับ 2 ซึ่งสามารถทำลายเชื้อโรคและแบคทีเรียส่วนใหญ่ที่อาจติดมากับเสมหะ ดังนั้นการกลืนเสมหะก็ไม่ทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกาย

เฉลยแล้ว ไอแล้วมีเสมหะ ควรคายหรือกลืนลงไปดีกว่ากัน


ข้อมูลจาก ETtoday