เบิร์ด เทคนิค ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับคดีแตงโม วานนี้( 3 มีนาคม 2568) เวลาประมาณ 18.44 น. หลังเสร็จสิ้นการเข้าให้ข้อมูลและสอบปากคำกับดีเอสไอเป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง โดยเบิร์ดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า รู้สึกดีใจที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจและปฏิบัติตามหน้าที่ รวมถึงทำตามนัดหมายกับดีเอสไอ พร้อมยืนยันว่าหากมีปัญหาหรือข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม ดีเอสไอสามารถติดต่อเขาได้โดยตรง ทั้งนี้ เขาได้ให้ข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคดีเรียบร้อยแล้ว ส่วนไทม์ไลน์ที่ตนไปภูเก็ตคือตนไป จ.ภูเก็ต วันที่ 17 ก.พ. และกลับกรุงเทพฯในวันที่ 19 ก.พ. เพราะแตงโมมีถ่ายละครวันที่ 22 หรือ 23 ก.พ. ตนไม่แน่ใจ แต่วันเกิดเหตุวันที่ 24 ก.พ. โดยแตงโมบอกกับตนก่อนลงเรือ 1 คืนว่าจะไปกินข้าวกับกระติกและเพื่อน
เบิร์ด เผยว่า ก่อนวันเกิดเหตุ แตงโมแต่งตัวตามปกติ จากนั้นมาหอมแก้มแล้วบอกกับตนว่า “ที่รักเค้าไปกินข้าวกับเพื่อนแล้วนะ” ระหว่างตนนอนอยู่บนเตียง ตอนนั้นตนไม่เอะใจว่าเป็นการบอกลา เพราะทำเป็นปกติก่อนออกไปข้างนอกอยู่แล้ว
ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่รู้จักกับคนบนเรือสักคน รู้จักเพียงกระติกคนเดียว แต่ก็ไม่สนิทกัน ส่วนคนชื่อเอ็กซ์ที่ให้ข้อมูลคนบนเรือ ตนไม่ได้สนิทด้วยรู้จักกันเพียงแค่วันไปขับรถเล่นที่บางแสน จ.ชลบุรี เพียงวันเดียว และตนก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาเลย ส่วนรายละเอียดอื่นอยู่ในสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.19 น. ตนคุยกับแตงโมครั้งสุดท้าย โดยแตงโมบอกว่าถึงร้านอาหารแล้ว กินข้าวแล้ว เธอกินข้าวหรือยัง ตนตอบกลับไปว่ากินแล้ว กำลังทำงานอยู่ หลังจากที่เบิร์ดพูดประเด็นดังกล่าวปรากฏว่าเพื่อนของเบิร์ดที่มาด้วยพยายามดึงตัวเบิร์ดออกไปแล้วบอกว่า “พอแล้ว”
โดยเบิร์ด เผยอีกว่า "ผมไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ อยากให้สังคมเสพข่าวแต่ไม่ต้องเชื่อข่าวทั้งหมด ต้องคิดวิเคราะห์แยกแยะ ทั้งนี้ ผมไม่เคยโดนข่มขู่และไม่กลัวใครด้วย อย่างไรก็ตาม
หลังจากจบคำถามนี้ปรากฏว่าเพื่อนของเบิร์ดดึงตัวเบิร์ดออกไปอีกครั้งจนไปถึงรถ ทำให้เบิร์ดมีอาการฉุนเฉียว สะบัดแขนเพื่อนแล้วบอกว่า “GUขอพูด”
ทุกวันนี้ผมเลือกทำตามใจของตัวเอง ไม่ได้ทำตามใจคนอื่น ที่ไม่ได้ออกมา แต่สิ่งที่คนเรียกร้องให้ตนออกมาเป็นการทำตามใจของคนอื่น แต่ที่ตัวไม่ออกมาเป็นเพราะตนทำใจตัวเอง"