อีกหนึ่งเคสที่หลายๆ คนให้ความสนใจไม่น้อย กับเรื่องราวของ เอียน แอปเปิลเกต (Ian Applegate) ชายวัย 35 ปี จากซานตาครูซ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เกือบเสียชีวิตหลังจากการจามอย่างรุนแรงจนทำให้เขาเกิดภาวะหลอดเลือดสมอง (Stroke)
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะ เอียน นั่งอยู่ในรถกับภรรยาและลูกชายวัย 4 ขวบ เมื่อเขาจามติดกันหลายครั้ง และในครั้งที่สาม เขารู้สึกถึงอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น โดยเริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง วิงเวียน และรู้สึกชาอย่างฉับพลันที่ด้านซ้ายของร่างกาย
การจามรุนแรงทำให้เยื่อบุหลอดเลือดแดงที่คอของเอียนฉีกขาด ซึ่งเป็นภาวะที่เรียกว่า "Vertebral Artery Dissection" (VAD) ซึ่งทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง จนส่งผลให้เขาประสบกับภาวะหลอดเลือดสมอง (Stroke) เอียนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที และแพทย์ได้ให้ยาละลายลิ่มเลือดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดลิ่มเลือดเพิ่มเติม
หลังจากเหตุการณ์นี้ เอียนกลายเป็นคนที่กลัวการจาม และต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากอาการจากการหลอดเลือดสมองทำให้เขาไม่สามารถกลืนอาหารได้ ขณะนี้เขากำลังเข้ารับการทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อทางด้านซ้ายของร่างกาย
การจามเป็นปฏิกิริยาทางธรรมชาติของร่างกายที่ช่วยขับไล่สิ่งระคายเคืองออกจากจมูก แต่ในบางกรณี การจามอย่างรุนแรงอาจนำไปสู่การบาดเจ็บที่รุนแรงได้
ศาสตราจารย์ อดัม เทเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกายวิภาคศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ สหรัฐฯ อธิบายว่า การจามอย่างรุนแรงอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บเช่น กระดูกซี่โครงหัก ปอดแตก หรือแม้แต่เนื้อเยื่อสมองฉีกขาด
อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ ภาวะ VAD ยังสามารถเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวคออย่างกะทันหันหรือการได้รับบาดเจ็บ เช่น การไอรุนแรงหรือการสั่งน้ำมูกแรงเกินไป
อาการของ VAD ได้แก่
แม้ว่าโรคหลอดเลือดสมองจาก VAD จะพบได้ยาก แต่ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของโรคหลอดเลือดสมองในผู้ที่อายุน้อย โดยมีการประเมินว่า ภาวะนี้เป็นสาเหตุของ 1 ใน 5 กรณีของโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือด (Ischemic Stroke) ในผู้ใหญ่ที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี
ข้อมูลจาก Daily Mail