รวบสาวไทย เปิดบัญชีคริปโต เอี่ยวแก๊งมาเลย์ฯ หลอกลงทุน เสียหายกว่า 800 ล้าน

20 กุมภาพันธ์ 2568
17

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวไทยคาสนามบิน เปิดบัญชีคริปโต เอี่ยวแก๊งมาเลเซีย หลอกลงทุน เสียหายกว่า 800 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกันจับกุม น.ส.ณิษฐ์รฐาฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 1832/2567 ลงวันที่ 25 เม.ย.2567 ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, เปิด หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือ เพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือ ยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน

รวบสาวไทย เปิดบัญชีคริปโต เอี่ยวแก๊งมาเลย์ฯ หลอกลงทุน เสียหายกว่า 800 ล้าน

โดยประการที่รู้ หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรม หรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว อันเป็นความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ"

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก กก.3 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลงทุนหุ้นไทยและต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่สร้างปลอมขึ้นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 100 รายและมีมูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งได้ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาโดยตลอด

 

จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดมีทั้งกลุ่มบุคคลสัญชาติมาเลเซียและบุคคลสัญชาติไทย ซึ่งในกลุ่มบุคคลสัญชาติไทยจะเป็นกลุ่มหญิงสาวลักลอบเข้าไปทำงานในสถานบริการต่างๆ เช่น คลับ เลาจน์ บาร์ ร้านค้า ร้านอาหาร ในพื้นที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในหน้าที่ต่างๆ ของขบวนการ เช่น การจัดหาบัญชีธนาคารรับเงิน และเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล

 

เพื่อแปลงเงินจากการกระทำความผิดเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลและส่งต่อให้กลุ่มผู้รับผลประโยชน์ชาวมาเลเซีย จากการประสานความร่วมมือระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (CIB) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย Minister Counsellor(Police Liaison) Embassy of Malaysia, Bangkok อัครราชทูตที่ปรึกษา(ฝ่ายตำรวจ) สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย โดย กก.3 บก.ปอศ.

รวบสาวไทย เปิดบัญชีคริปโต เอี่ยวแก๊งมาเลย์ฯ หลอกลงทุน เสียหายกว่า 800 ล้าน

ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและติดตามกลุ่มอาชญากร ที่ก่อเหตุทั้งในไทยและประเทศมาเลเซีย พบว่ากลุ่มอาชญากรดังกล่าว ฟอกเงินผ่านบัญชีม้านิติบุคคล ในรูปแบบเดียวกัน เป็นธุระจัดหาบัญชีธนาคาร รับเงินผ่านบัญชีของตนเองตลอดจนเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล และส่งต่อไปยังผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นชาวมาเลเซีย

 

โดยเฉพาะกรณีของ น.ส.ณิษฐ์รฐา ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารและบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้เป็นเส้นทางการเงินจากผู้เสียหายและแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนจะผ่องถ่ายไปเป็นทรัพย์สินอื่นๆ และหลบหนีไปอาศัยอยู่ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

รวบสาวไทย เปิดบัญชีคริปโต เอี่ยวแก๊งมาเลย์ฯ หลอกลงทุน เสียหายกว่า 800 ล้าน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียได้ประสานข้อมูลเชิงลึกให้ผู้ต้องหาสัญชาติไทยรายนี้เดินทางมามอบตัวแก่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ได้สอบถามและยืนยันตัวตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการต่อไป

 

การดำเนินการครั้งนี้แสดงถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของทั้งสองประเทศในการต่อต้านกระบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการประสานงานที่มีประสิทธิภาพของหน่วยงานทั้งสองประเทศ

 

สอบถามคำให้การ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากการซักถามเบื้องต้นทราบว่าได้เปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลและบัญชีธนาคารให้สามีของตนเองใช้งานจริง แต่ตนเองก็ไม่ทราบว่า ทางสามีได้นำบัญชีนี้ไปใช้ทำอะไร