กลายเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนติดตามกันอย่างต่อเนื่อง กรณีชายคนหนึ่งตบหน้าพยาบาลถึง 2 ครั้งที่โรงพยาบาลในจังหวัดระยอง ซึ่งเกิดขึ้นหลังพยาบาลได้เตือนภรรยาของผู้ก่อเหตุให้พาลูกเล็กออกจากห้องผู้ป่วย เนื่องจากเด็กพยายามเข้าไปเยี่ยมคุณยายที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่และติดเชื้อลงปอด โดยพยาบาลได้เตือนหลายครั้งก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น
ในการเตือนครั้งสุดท้าย พยาบาลได้ใช้คำพูดที่ทำให้ภรรยารู้สึกไม่ดี เมื่อกลับไปเล่าให้สามีฟัง สามีจึงเกิดความไม่พอใจและเข้าไปสอบถามว่าใครพูดไม่ดีเกี่ยวกับภรรยาของเขา ก่อนที่ความโกรธจะพาไปสู่การทำร้ายพยาบาล หลังเกิดเหตุ พยาบาลได้แจ้งความและยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ล่าสุดในรายการโหนกระแส(18 ก.พ.68) ได้พูดคุยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยในรายการมีการโทรศัพท์ไปยังฝ่ายต่างๆ ทั้งฝ่ายพยาบาลที่ถูกทำร้ายและภรรยาของฝ่ายคู่กรณีเพื่อเปิดใจ ซึ่ง น.ส.หนู ภรรยาของชายที่ทำร้ายพยาบาลได้โฟนอินมาในรายการ และเริ่มต้นด้วยการขอโทษพยาบาลและทางโรงพยาบาลที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เธอกล่าวว่า เธอเองก็ได้ตำหนิสามีและไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง พร้อมยอมรับผิดในเรื่องนี้
จากนั้นเธอเล่าต่อว่า วันนั้นสามีพาลูกไปที่ห้องเยี่ยมคุณยาย โดยพยาบาลคนแรก (ไม่ใช่คนที่ถูกตบ) ได้เตือนด้วยคำพูดที่สุภาพว่าไม่อยากให้พาเด็กเข้ามา เพราะคุณยายติดไข้จากลูกที่เพิ่งหาย เธอก็เข้าใจและสามีก็พาลูกออกมา จากนั้นเธอได้พาลูกเข้าไปใหม่ พยาบาลที่ถูกทำร้ายได้เดินออกมาพูดด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่า "สูญเสียแม่ไปคนแล้ว จะสูญเสียลูกอีกคน ยอมรับได้เหรอ" ทำให้เธอรู้สึกใจเสียและพาลูกออกจากห้องผู้ป่วย
เมื่อกลับออกมาด้านนอก ลูกของเธอได้ถามว่า ทำไมพยาบาลถึงดุและไม่ขอโทษเลย ซึ่งคำถามนี้ทำให้สามีของเธอรู้สึกไม่ดี หลังจากนั้นเมื่อสามีไปดูอาการของแม่เขา คำพูดของพยาบาลก็แวบเข้ามาในความคิด จนทำให้เขาเกิดความโกรธและตัดสินใจไปทำร้ายพยาบาลในที่สุด
สุดท้าย เธอขอให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน และอยากให้เป็นตัวอย่างในการพิจารณาพฤติกรรมของทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต