"หนุ่มจีน" หนีออกนอกประเทศแล้ว หลังบังคับ "น้องไอ" อัพยาจนดับคาโรงแรม

17 กุมภาพันธ์ 2568
166

หนีออกนอกประเทศไปแล้ว หนุ่มจีนบังคับ "น้องไอ" นางสาวไอรดา อายุ 22 ปี อัพยา หลังรับงานงานเอนเตอร์เทน จนเสียชีวิตคาโรงแรม

จากกรณีการเสียชีวิตของ นางสาวไอรดา หรือ "น้องไอ" อายุ 22 ปี ซึ่งรับงานเอนเตอร์เทนให้กับนายดูยิง วู ชาวจีน ก่อนจะถูกบังคับให้เสพยาเกินขนาดจนเสียชีวิตภายในโรงแรม เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ผลการชันสูตรยังไม่สามารถยืนยันการพบสารเสพติดในร่างกายของผู้เสียชีวิตได้ เนื่องจากต้องรอผลตรวจเลือดจากแพทย์นิติเวช ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่สามารถยืนยันได้ในขณะนี้ โดยปกติการตรวจหาสารเสพติดสามารถทำได้จากโคนเส้นผมเช่นกัน 

\"หนุ่มจีน\" หนีออกนอกประเทศแล้ว หลังบังคับ \"น้องไอ\" อัพยาจนดับคาโรงแรม  

แต่เนื่องจากศพของน้องไอถูกเผาไปแล้ว จึงไม่สามารถใช้วิธีดังกล่าวได้ ทำให้ต้องรอผลตรวจเลือดเพื่อสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการพบสารเสพติดในร่างกายของผู้เสียชีวิต

\"หนุ่มจีน\" หนีออกนอกประเทศแล้ว หลังบังคับ \"น้องไอ\" อัพยาจนดับคาโรงแรม

ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังค์ประไพ อดีต รอง ผบช.น. เปิดเผยต่อว่า ส่วนประเด็นเรื่องที่ตำรวจได้มีการพูดคุยกับญาติในลักษณะที่เป็นตัวกลางในการเจรจาเรื่องเยียวยาค่าเสียหาย จนถูกสังคมวิจารณ์ว่าตำรวจทำไมถึงทำตัวเหมือนช่วยผู้ต้องหา เรื่องนี้ทางพลตำรวจตรีวิชัย สังค์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้พูดว่า ประเด็นนี้มองได้ 2 มุม หากคิดในทางที่ดีก็ถือว่ามีคนกลางเจรจาในเรื่องค่าเยียวยา เปรียบเทียบเหมือนกับคดีรถชน ที่ทำความผิดแล้วต้องชดใช้

 

แต่ก็สามารถมองได้อีกมุมว่ามีพฤติกรรมไปช่วยเหลือผู้กระทำความผิด เนื่องจากได้มีการอ้างกับญาติว่าน้องผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรมไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย ซึ่งตรงนี้ทางตำรวจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างละเอียด หากมีความผิดก็อาจจะเข้าข่ายกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้
\"หนุ่มจีน\" หนีออกนอกประเทศแล้ว หลังบังคับ \"น้องไอ\" อัพยาจนดับคาโรงแรม

ในตอนนี้ตัวของชาวจีนได้มีการหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว จะถือว่าทางตำรวจทำงานช้าเกินไปหรือไม่ ทางผู้การแต้มได้บอกว่า หากมองว่าทำงานช้าก็พูดได้ แต่การจะรวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับได้ก็ต้องใช้เวลาเช่นเดียวกัน ซึ่งระหว่างรวบรวมหลักฐานตำรวจก็สามารถส่งข้อมูลให้กับทางตำรวจ ตม.ได้ว่าห้ามบุคคลดังกล่าวออกนอกประเทศ