รายการสืบสวนความจริง เนชั่นทีวี ช่อง 22 คว้า 2 รางวัลจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระดับโลก ในเวทีสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2567 ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของสื่อมวลชนอย่าง “เนชั่นทีวี” ในการนำเสนอประเด็นสิทธิมนุษยชนที่ส่งผลกระทบต่อสังคม
มิติใหม่ของงานข่าวสืบสวน กับ 2 ผลงานคุณภาพในปีนี้ รายการสืบสวนความจริงได้รับ 2 รางวัลในประเภทข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวสื่อโทรทัศน์ จากทั้งหมด 15 ผลงานที่เข้าชิง
โดยรางวัลที่ได้รับ ได้แก่
1. ผลงานชุด “คดีตากใบ สู่ประวัติศาสตร์ที่ไม่ขาดอายุความ” และ “ตากใบภาค 2 จุดไฟในใจคน” คุณปกรณ์ พึ่งเนตร บรรณาธิการบริหาร ได้เปิดเผยว่า ผลงานนี้สะท้อนให้เห็นว่าคดีตากใบไม่ใช่เพียงแค่บาดแผลในอดีต ไม่ใช่แค่เรื่องราวในประวัติศาสตร์ แต่เป็นบาดแผลที่ยังเปิดอยู่ของสังคมไทย และเป็นภารกิจที่สื่อมวลชนต้องร่วมกันสะท้อนความจริง ‘ตากใบภาค 2’ ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อรื้อฟื้นความขัดแย้ง แต่เพื่อจุดประกายให้สังคมร่วมตั้งคำถามว่า เราจะทำให้เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เกิดขึ้นอีกได้อย่างไร นี่คือหน้าที่ของเรา
2. ผลงานชุด “ตะกอนหายเพราะเขื่อน” สารคดีเชิงข่าวที่เจาะลึกถึงผลกระทบจากการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง ซึ่งส่งผลต่อระบบนิเวศ วิถีชีวิตชาวบ้าน และความสมดุลทางธรรมชาติ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของดินและตะกอนที่ถูกกักเก็บไว้หลังเขื่อน แต่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำโขงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ส่งผลให้วิถีชีวิตของชาวบ้านที่เคยพึ่งพาสายน้ำต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
การทำข่าวเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเกี่ยวข้องกับโครงสร้างอำนาจข้ามพรมแดน การลงทุนขนาดใหญ่ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่เรามุ่งมั่นนำเสนอข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบ
โดย คุณพุทธณี กางกั้น ประธานกรรมการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวถึงบทบาทของสื่อมวลชนในการสร้างสังคมที่เป็นธรรมว่า รางวัลนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องหมายแห่งความสำเร็จ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญของสื่อมวลชนที่ยืนหยัดทำงานเพื่อสิทธิมนุษยชน แม้จะต้องเผชิญกับแรงกดดันและอุปสรรคมากมาย ทุกผลงานที่ส่งเข้าประกวดแสดงให้เห็นว่าสื่อยังคงเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ และร่วมส่งเสียงเคียงข้างนักสิทธิมนุษยชนที่ยังคงต่อสู้เพื่อความยุติธรรม
เธอยังเปรียบเทียบว่า สื่อมวลชนเปรียบเสมือน "แสงเทียน" ที่ช่วยฉายแสงให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน เป็นกระจกสะท้อนความจริง และเป็นพลังที่ผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคม