วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พา นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 61 ปี อดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจ เข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม (กองปราบ) หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลงทุนในตลาดหุ้นผ่านกลุ่มแชทออนไลน์ ส่งผลให้สูญเสียเงินลงทุนไปกว่า 5 ล้านบาท
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2567 นางเอพบโฆษณาเกี่ยวกับการสอนเทรดหุ้นบนโซเชียลมีเดีย และได้เข้าร่วมกลุ่มไลน์ที่มีสมาชิกหลายสิบคน ซึ่งมิจฉาชีพได้แอบอ้างว่าเป็นนักวิเคราะห์หุ้นมืออาชีพ และเสนอแนะให้ลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูง
ช่วงแรกของการลงทุน นางเอเริ่มต้นด้วยเงินจำนวน 300,000 บาท และเห็นยอดเงินในระบบเพิ่มขึ้นเป็น 600,000 บาท แต่ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยมิจฉาชีพอ้างว่ายังไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่สามารถถอนได้ จึงถูกชักจูงให้ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงเดือนธันวาคม 2567 ยอดเงินที่ลงทุนไปทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านบาท ขณะที่ยอดเงินในบัญชีแสดงผลกำไรสูงถึง 20 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ เมื่อนางเอเริ่มสงสัยและพยายามติดต่อเพื่อขอเงินคืน กลุ่มมิจฉาชีพกลับบล็อกช่องทางการติดต่อทั้งหมด
เมื่อตระหนักว่าถูกหลอกลวง นางเอได้ติดต่อสายด่วน AOC 1441 ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ส่งเรื่องไปยังกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บก.สอท.2) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกังวลว่าอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม นางเอจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อกองปราบปราม
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อติดตามเส้นทางการเงินและตัวผู้กระทำผิด โดยคาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้
คำแนะนำสำหรับผู้ลงทุน
กรณีนี้เป็นตัวอย่างของการหลอกลวงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งมิจฉาชีพใช้เทคนิคสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อชักจูงให้เหยื่อลงทุน โดยมีแนวทางป้องกันดังนี้ :
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มการลงทุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ก.ล.ต. หรือ ธปท.
หลีกเลี่ยงการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลธรรมดาที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
ระมัดระวังการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง โดยเฉพาะที่ไม่มีเอกสารยืนยันหรือข้อมูลที่โปร่งใส