กำลังเป็นที่จับตาจากกรณีที่ ตำรวจสืบสวน สน.คันนายาว เฝ้าจับกุม คนร้าย 2 คน ก่อเหตุลักมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ สน.คันนายาว โดยมาดักที่บริเวณใต้ทางด่วนหน้าวัดศิริพงศ์ เมื่อคนร้าย 2 คน ขี่มอเตอร์ไซค์มาที่บริเวณดังกล่าว ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุมนายเอ (นามสมมติ) ไว้ได้
แต่คนร้ายอีกคนที่อยู่ไม่ไกลได้ชักอาวุธปืนพกสั้น และวิ่งมาจ่อจะยิงตำรวจ พร้อมบอกให้ปล่อยเพื่อน ตำรวจพยายามเจรจาต่อรอง แต่ไม่เป็นผล จึงได้ปล่อยตัวนายเอ ทำให้คนร้ายทั้ง 2 คน ขี่มอเตอร์ไซค์ PCX สีดำ หลบหนีไป
โดยคนร้ายที่ถืออาวุธเป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์เมื่อผ่านหน้าตำรวจที่ยืนสกัดจับ ก็ได้ยิง 1 นัด ตำรวจจึงชักปืนยิงกลับไปเพื่อป้องกันตัว 2 นัด โดนบริเวณศีรษะและขาของนายเอซึ่งเป็นคนซ้อน จนร่วงลงมาจากมอเตอร์ไซค์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนร้ายอีกคนได้ขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนีไป
ตามรายงานระบุว่าคนร้ายทั้งสองได้ก่อเหตุลักมอเตอร์ไซค์ของผู้เสียหายที่จอดใต้หอพักย่านซอยนวลจันทร์ 52 เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา เวลา ประมาณ 04:54 น. ก่อนจะนำไปจอดซ่อนไว้ที่ใต้ทางด่วนหน้าวัดศิริพงศ์ (จุดเกิดเหตุ) ซึ่งผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว ทำให้ตำรวจสืบและติดตามจนมาเกิดเหตุดังกล่าว
ด้าน ผู้เสียหายอายุ 20 ปี เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกขโมยรถ เล่าว่า รถคันดังกล่าวเป็นของพี่สาวที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2567 โดยผ่อนเดือนละประมาณ 2,000 บาท จนกระทั่งเช้าวันเกิดเหตุ ตนและพี่สาวตื่นมาพบว่ารถมอเตอร์ไซค์หายไป
จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขโมยรถไปจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน.โคกคราม (สน.โคกคราม ประสาน สน.คันนายาว เพราะมีเคสเดียวกันจากคนร้ายกลุ่มนี้ สน.คันนายาว จึงขยายผล)
ผู้เสียหายยอมรับว่า ในตอนแรกกังวลว่าอาจไม่ได้รถมอเตอร์ไซค์คืน แต่หลังจากนั้นได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าพบรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ทำให้รู้สึกโล่งใจ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะลุกลามถึงขั้นมีการยิงปะทะกัน ตนอโหสิกรรมให้กับกลุ่มผู้เสียชีวิต และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามรถกลับคืนมา
ขณะที่ภรรยาและแม่ยายของผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิต ก็ได้เดินทางมาดูร่างนายเอ พร้อมเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ทราบเรื่องจากคนรู้จักจึงรีบโทรศัพท์หานายเอ แต่ตำรวจเป็นคนรับสายและแจ้งเรื่อง
แม่ยาย เผยว่า เห็นหน้าลูกเขยครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา และลูกเขยไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน หนี้สิน หรือติดการพนันออนไลน์ ไม่มีพฤติกรรมลักขโมย และไม่เคยเห็นลูกเขยมีปืน ลูกเขยและลูกสาวตนเปิดร้านขายของใช้เบ็ดเตล็ด อยู่แถวบางเขน เป็นคนขยันทำมาหากิน รักครอบครัว เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวต้องเสียเสาหลัก
อีกทั้งวันนี้ลูกเขยจะต้องพาลูกสาวตนไปหาหมอตรวจครรภ์เพื่อกำหนดวันคลอดลูก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ทำไมไม่จับกุมลูกเขยไปดำเนินคดี ทำไมถึงใช้ยุทธวิธีในการวิสามัญจนเสียชีวิตเช่นนี้
อย่างไรก็ตามทางด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นไปตามยุทธวิธีและขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพจากวงจรปิดปรากฏให้เห็นแล้วว่าคนร้ายพยายามที่จะทำร้ายตำรวจก่อน ตำรวจจึงต้องยิงเพื่อป้องกันตัว ซึ่งเรื่องนี้ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ไปชี้แจงกับญาติคนร้ายที่เสียชีวิตแล้ว