เมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นเถ้าแก่และสักขีพยาน ในการจดทะเบียนสมรส ระหว่าง นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กับ ป๊อป สุไพรพล ช่วยชู ที่เขตบางรัก หลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกันกว่า 23 ปี ซึ่งก็ได้ล่าวถึงเรื่องความร่วมมือของประเทศจีนร่วมปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผยล่าสุดรู้แล้วเจ้าของตึก 25 ชั้นในปอยเปต คือใคร และยังขู่ที่จะถอนสัญชาติไทยด้วย
ซึ่งทาง เนชั่นสุดสัปดาห์ เปิดเผยว่า ความร่วมมือของประเทศจีนร่วมปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น นายทักษิณ กล่าว เราและจีนร่วมมือกันอย่างดี และเราก็ขอร้องประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมาที่ยังมีปัญหาสู้รบ และแน่นอนว่า รายได้ส่วนหนึ่งที่ใช้ในการสู้รบก็มาจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และยาเสพติด
จึงต้องจัดการที่ต้นเหตุ อาจส่งผลให้คนฝั่งเมียนมาเดือดร้อน แต่ทางชุมชนก็ต้องคิดว่า จะไปโอบอุ้มคอลเซ็นเตอร์ไว้ทำไม ถ้าไล่คอลเซ็นเตอร์ออกไป เราก็ส่งไฟและส่งสัญญาณโทรศัพท์ให้เหมือนเดิม
วันนี้เราห่วงคนไทยที่โดนหลอกมากกว่า และห่วงชุมชนของเมียนมาที่โอบอุ้มคอลเซ็นเตอร์ไว้ และทางเขมรที่ขณะนี้มีข้อมูลชัดเจนขึ้นว่าใครเป็นใคร ซึ่งเราก็จะขอความร่วมมือให้ได้
ส่วนประเด็นที่เมียนมาไม่เดือดร้อนหลังไทยตัดไฟฟ้า และหันไปซื้อไฟจากประเทศลาวนั้น นายทักษิณ ระบุว่า ไม่เป็นไร น้ำมันเราก็บล็อกไม่ให้มีน้ำมันเข้าไปปั่นไฟ และคิดว่าถ้าจะเอาเข้าทางประเทศลาวก็คงไม่สะดวกเท่าไหร่
ที่มา เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend