จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีข่าว "ติ๊ก ชิโร่" นักร้องดังขับรถตู้ชนจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย บริเวณกลางสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2567 ล่าสุด 19 ม.ค.68 "น้องจูเนียร์" เหยื่อที่ถูก ติ๊กชิโร่ เมาแล้วขับ เสียชีวิตลงแล้ว หลังรักษาตัวมานานกว่า 3 เดือน
โดยนาย จีรวัฒน์ ศิวพรพิทักษ์ พ่อน้องจูเนียร์ กล่าวว่า น้องจูเนียร์ อาการสาหัสนอนโรงพยาบาลอยู่นานกว่า 70 วัน และเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมปีที่แล้ว และไปพักที่ศูนย์พักฟื้นจนถึงเมื่อวานนี้ เบื้องต้นทราบว่าติดเชื้อในปอด ส่วนก่อนหน้านี้น้องก็ยังไม่ได้สติ ต้องเจาะคอ ให้อาหารทางสะดือ และใส่สวนปัสสาวะอยู่
ส่วนคุณ ติ๊ก ชิโร่ ระหว่างที่น้องจูเนียร์รักษาตัวที่โรงพยาบาล ติ๊ก ชิโร่เคยมาเยี่ยม 3 ครั้ง และเคยช่วยเหลือเงินเป็นค่างานศพตอนที่ลูกสาวคนโตเสียชีวิต 170,000 บาท และค่าใช้จ่ายที่ศูนย์พักฟื้นของน้องจูเนียร์
แต่ส่วนของเงินชดเชยเยียวยานั้นยังไม่ได้รับแม้แต่บาทเดียว เคยคุยกันครั้งนึงช่วยปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ครอบครัวเคยเรียกร้องเงินไปจำนวนหนึ่ง คุณติ๊กก็บอกว่ารับรู้รับทราบ จะกลับไปพิจารณาแล้วจะแจ้งกลับมา แต่ผ่านมา 3 เดือนแล้วก็ยังไม่มีการตอบอะไรมา ทางครอบครัวพยายามติดต่อไปเป็นระยะๆ แต่หลังพูดคุยกับมักจะเงียบหายไปตลอด
จนเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ทางตำรวจแจ้งว่าจะต้องส่งสำนวนให้อัยการแล้ว แต่ยังตกลงกันไม่ได้ เพราะคุณติ๊กไม่มาเจรจา ส่งแต่น้องสาวเป็นตัวแทนมา โดยยื่นข้อเสนอเป็นที่ดินผืนหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ที่อ้างว่าหากขายได้จะมีมูลค่าประมาณ 4-5 ล้านบาท โดยเมื่อขายได้จะนำเงินมาชดใช้ให้ แต่ไม่รู้จะขายได้เมื่อไร
ซึ่งหากทางตนเองไม่อยากรอเงิน ก็จะโอนที่ดินให้ แต่ตนเองไม่ตกลง เพราะเมื่อขอรายละเอียดโฉนดที่ดินไป ก็เงียบหาย ไม่ส่งให้ จึงไม่แน่ใจในราคาประเมินที่ดินดังกล่าว ว่าจะได้ราคานี้จริงหรือไม่ หรือจะขายได้เมื่อไหร่
พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาเป็นความพยายามพูดคุยเยียวยาในส่วนของลูกคนโต แต่เมื่อลูกคนเล็กของตนเองเสียชีวิต ก็อยากให้คุณติ๊กกลับไปทบทวนเรื่องของการเยียวยาด้วย และยอมรับว่ากังวลว่าอาจจะไม่ได้รับเงินเยียวยาอย่างเหมาะสม
เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่คุณติ๊กพูดและกระทำย้อนแย้งกันเสมอ ที่เคยบอกว่ายินดีรับผิดชอบดูแลทุกอย่าง สังคมก็รับทราบ แต่พอความจริงกลับไม่ค่อยมี ต้องคอยทวงถาม ไม่เช่นนั้นก็เงียบ
และยังมีความพยายามไปร้องขอความเป็นธรรม ให้เป็นคดีประมาทร่วมด้วย ยังดีที่ทางตำรวจเห็นว่าลูกๆ ตนเองไม่ได้ประมาท แต่คุณติ๊กประมาทฝ่ายเดียว ซึ่งตนเองก็พอใจความเห็นของตำรวจ ส่วนงานศพหากอีกฝ่ายจะมาร่วมตนเองก็ยินดี
หลังจากนั้นนายจีรวัฒน์ ก็ได้ไปร้องทุกข์กับเพจสายไหมต้องรอด เพราะอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกที่เสียชีวิตไปทั้ง 2 คน อยากให้คุณติ๊ก มาพูดคุยและเจรจากันว่าจะเอาอย่างไรดี ตนเองเสียลูกคนแรกไปก็เสียใจมากพออยู่แล้ว ต้องมาเสียลูกคนที่ 2 อีก
ในส่วนแม่น้องจูเนียร์ ได้มาติดต่อรับศพน้องจูเนียร์ออกจากนิติเวช โดยแม่เป็นผู้เชิญตะเกียงนำร่างน้องจูเนียร์ขึ้นรถและไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน พร้อมแสดงอาการร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้าและใช้ทิชชู่เช็ดน้ำตาตลอดเวลา