จากกรณี "หยาง เจ๋อฉี" นายแบบชาวจีน หายตัวปริศนาเกือบเดือน ล่าสุด ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พา นาย หยาง ไห่ เทา พ่อของนาย หยาง เจ๋อ ฉี นายแบบชาวจีน ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยเร่งรัดติดตามตัวลูกชายหลังถูกรับเชิญมาถ่ายภาพภาพยนตร์ที่ไทย พ่อของ หยาง เจ๋อ ฉี เล่าว่าลูกชายเดินทางมา ประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมปีที่แล้วโดยขึ้นเครื่องจากปักกิ่งมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ
โดยครั้งล่าสุดที่ได้พูดคุยกับลูกชาย คือ วันที่ 29 ธันวาคม ลูกชายวีดีโอคอลผ่าน WeChat มาหาแม่ ซึ่งลักษณะการพูดคุย เหมือนคนวิตกกังวล อยู่ในอาการตกใจ อีกทั้งยังเห็นรอยช้ำบริเวณดวงตา ซึ่งพ่อคิดว่าลูกชายอาจถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากนั้นยังเห็นความผิดปกติอีกอย่างคือลักษณะท่าทางการวางมือขณะพูดคุยกับเห็นว่าลูกชายวางมือบนโต๊ะตลอด ไม่ได้ถือโทรศัพท์เหมือนเวลาวิดีโอคอลคุยกันทั่วไป
จึงคิดว่า อาจมีคนถือโทรศัพท์ให้ เมื่อถามว่าในระหว่างที่พูดคุยกันลูกชายมีการขอความช่วยเหลือหรือไม่ ผู้เป็นพ่อบอกว่า ลูกไม่ได้พูดขอความช่วยเหลือ หรือส่งสัญญาณใดใด โดยเชื่อว่าขณะนั้นอาจมีคนจับตาและถูกควบคุมตัวอยู่
เบื้องต้นทั้งครอบครัวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. เมื่อวันศุกร์ ที่10 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้รับเรื่องและประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยติดตามตัวลูกชายแล้ว แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดใดและไม่รู้ว่าลูกยังอยู่ในไทยหรือออกนอกประเทศ ทำให้ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงมาก
ขณะที่พิกัดล่าสุด หยาง เจ๋อ ฉี มีข้อมูลโลเคชั่นส่งให้แฟนสาวและเพื่อนในกลุ่มพบว่าพิกัดไปอยู่แถว อ.พบพระ อ.แม่สอด จ.ตาก แต่ไม่รู้ว่าข้าแม่น้ำไปชายแดนแล้วหรือไม่ ส่วนในโซเชียลก็ยังไม่มีการอัพเดทข้อมูลใดใด
ด้าน ผู้เป็นพ่อกล่าวด้วยว่า ลูกชายเพิ่งเคยเดินทางมารับงานต่างประเทศครั้งแรก โดยมีการติดต่องานทางโซเชียลว่าเป็นงานบันเทิงของไทย ตอนแรกที่ลูกมาทำงานประเทศไทยก็ไม่เป็นห่วงเพราะคิดว่าประเทศไทยปลอดภัย เวลามาเที่ยวก็รู้สึกว่าคนไทยให้ความต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นมิตร แต่พอลูกหายไปก็รู้สึกเป็นห่วงจึงอยากขอให้ทางรัฐบาลและตำรวจช่วยตามหาลูกชาย
ด้านทนายรัชพล เชื่อว่าเรื่องนี้มีคนไทย คนจีน รวมไปถึงคนเมียนมามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากรูปถ่ายที่ตรวจสอบมา หยางเจ๋อฉี มีการถ่ายทะเบียนรถ ซึ่งรถคันดังกล่าวมีการจดทะเบียนในประเทศไทย หากตำรวจไปตามทะเบียนรถ ตามเจ้าของรถ เชื่อว่าก็จะตามสืบได้บ้าง และทำให้ขยายผลต่อได้
โดยสิ่งที่คาดหวังอยากให้ทางรัฐบาลไทยหรือจีนหรือเมียนมา ประสานงานและร่วมมือกันในการที่จะติดตามคดีนี้ เพราะเป็นคดีที่เป็นผลเกี่ยวเนื่องกันทั้งสามประเทศ หากประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ให้ความร่วมมือ ก็อาจจะทำให้การดำเนินคดียากขึ้น จึงอยากฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามคดีนี้
ซึ่งหลักฐานที่มีขณะนี้ มีภาพถ่ายที่เห็นทะเบียนรถ โดยพบว่ามีรถรับส่ง 2 คัน คันแรกรับจากสุวรรณภูมิแล้วไปเปลี่ยนรถก็ไม่ทราบว่าที่ไหน และมีภาพต่างๆที่ทางหยางเจ๋อฉี ถ่ายส่งกับเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งในส่วนนี้ก็ไม่ทราบว่าคุณพ่อของหยางเจ๋อฉี ได้นำหลักฐานส่วนนี้ให้ตำรวจหรือยัง