เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2568 มีรายงานความคืบหน้าคดีลอบยิง ลิม กิมยา อดีต สส. กัมพูชา โดยคนร้ายคือ นายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือ "จ่าเอ็ม กองเรือ" ที่หลบหนีไปหลังก่อเหตุก่อนโดนตามจับกุมตัวกลับมาดำเนินคดีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568
คืบหน้าล่าสุดหลังจากที่ควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือ "จ่าเอ็ม กองเรือ" มาสอบปากคำที่ สน.ชนะสงคราม พลตำรวจตรี อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำในเบื้องต้นเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งประเด็นหลักที่ผู้ต้องหายังคงกังวลคือเกรงว่าญาติพี่น้องจะรู้เรื่องจะเหตุการณ์นี้ แต่ตนได้มีการให้พบทนายความและมีการพูดคุยจนกระทั่งนายเอ็มเริ่มมีความผ่อนคลายมากขึ้นจนสามารถให้การกับพนักงานสอบสวนได้บ้างแล้ว
โดยจัดการสอบสวนนายเอ็มอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุไม่ถึง 24 ชั่วโมง มีผู้มีพระคุณซึ่งเป็นพลเรือนมาจ้างวานให้ฆ่า นาย ลิม กิมยา อดีต สส.กัมพูชา ซึ่งตอนแรกนายเอ็มได้ตอบปฏิเสธ ก่อนจะถูกผู้มีพระคุณพยายามโทรตื้อจนทำให้นายเอ็มตอบตกลงรับงาน ในราคา 60,000 บาท และจ่ายมัดจำมาก้อนแรก 30,000 บาท
นายเอ็มจึงเอาเงินจำนวนนี้ไปไถ่ปืนที่จำนำไว้ในราคา 2,000 บาท และในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ นายเอ็มบอกว่า มีคน LINE มาให้ข้อมูลตลอด ว่าเป้าหมายรูปพรรณสันฐานเป็นอย่างไร ตอนนี้เดินทางถึงไหน และช่วงเวลาที่หลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก็มีคน LINE มาบอกตลอดว่าให้ไปตรงจุดใด ซึ่งข้อมูลในโทรศัพท์มือถือตรงกับคำให้การของนายเอ็ม
นายเอ็มยังได้ใช้สิทธิ์ของผู้ต้องหาในการที่จะไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยให้เหตุผลว่ากังวลเรื่องความปลอดภัย และยังไม่อยากไปเจอหน้าใคร แต่จะให้คนมาสมบทบาทเป็นตัวเองในการทำแผน ซึ่งตนจะวิดีโอคอลบอกรายละเอียดว่าขณะนั้นเกิดอะไรขึ้น และตนทำอะไรอยู่