อีกเหตุการณ์อันน่าสะพรึงที่เกิดขึ้นในเครื่องบินโดยสาร เมื่อมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบศพปริศนา 2 ราย อยู่ในซุ้มล้อของเครื่องบิน สายการบินเจ็ตบลู (JetBlue) ที่เพิ่งเดินทางจากนิวยอร์ก ซิตี้ มายังเมืองฟอร์ตลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้ทางสายการบินยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเป็นใคร และอยู่ระหว่างสอบสวนว่าทั้งคู่เข้าถึงเครื่องบินได้อย่างไร
ตามรายงานระบุเพียวว่า ศพที่เจอเป็นเพศชาย ซึ่งสภาพของทั้งคู่ถูกพบในคืนวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ระหว่างการตรวจเช็กเครื่องบิน หลังทำการบินในเที่ยวบิน 1801 ซึ่งขณะนั้นผู้โดยสารลงจากเครื่องไปหมดแล้ว เหตุการณ์นี้นับเป็นกรณีล่าสุดจากหลายๆ เหตุการณ์ที่เพิ่มความกังวลด้านความปลอดภัยของสายการบิน
อีกทั้งยังมีการเปิดเผยว่า เครื่องบินลำนี้เพิ่งบินมาจากสนามบินจอห์น เอฟ. เคนเนดี ในนิวยอร์ก มาถึงสนามบินที่ฟอร์ตลอเดอร์เดลในเวลา 23:10 น. ก่อนที่ช่างเทคนิคประจำประตูบริเวณ landing gear ซึ่งเป็นระบบล้อของเครื่องบิน จะสังเกตเห็นชาย 2 คนนี้ที่อยู่ในสภาพแน่นิ่งและเสียชีวิตแล้วภายในซุ้มล้อของเครื่องบิน
จากนี้ทางนิติเวชจะทำการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของทั้ง 2 ศพ ขณะที่ทางการเปิดเผยว่าทั้ง 2 ศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยมาก แต่ศพที่พบไม่ได้กระทบต่อการดำเนินงานของสายการบิน
สำหรับการพบศพในซุ้มล้อของเครื่องบินนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ หลังมีการพบศพบริเวณล้อเครื่องบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ที่เดินทางจากชิคาโก ไปยังเกาะเมาวี ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานการบินสหรัฐฯ พบว่า ช่องที่ระบบล้อเครื่องบินมักถูกใช้โดยคนที่ลักลอบขึ้นเครื่องบิน โดยที่คนเหล่านี้ไม่ทราบว่าช่องดังกล่าวมีพื้นที่เล็กแค่ไหนตอนที่ล้อถูกดึงกลับ
อย่างไรก็ตาม หากคนเหล่านี้ไม่ถูกทับก็มักจะหมดสติเพราะขาดออกซิเจน หรือถูกแช่แข็งขณะเครื่องบินอยู่ที่ระดับความสูง และมีรายงานว่าคนที่ลักลอบขึ้นเครื่องบินด้วยการเข้าไปอยู่ในซุ้มล้อหรือช่องภายนอกอื่นๆ ของเครื่องบิน มีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 80%
ข้อมูลจาก CNN