เจ้าของหมา ชี้แจงแล้วหลังเจอทัวร์ลง ไม่จ่ายเงินรางวัล ยืนยันไม่ได้เบี้ยว

07 มกราคม 2568
161

เจ้าของหมา ชี้แจงแล้วหลังเจอทัวร์ลง ไม่จ่ายเงินรางวัล ยืนยันไม่ได้เบี้ยว พร้อมโชว์เช็กเงินสด เตรียมมอบเงินให้ร้านหมูกระทะ

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีการประกาศตามหาสุนัข "น้องทองดี" โดยเจ้าของมีเงินรางวัลมอบให้ผู้ที่เจอ 20,000 บาท และเพิ่มเป็น 50,000 บาท แต่สุดท้ายเจ้าของสุนัขก็ไม่ได้ให้รางวัลกับผู้พบเจอ ทำให้เกิดเป็นประเด็นดราม่าอยู่ในโชเชียล โดยทัวร์ลงอย่างหนัก

เจ้าของหมา ชี้แจงแล้วหลังเจอทัวร์ลง ไม่จ่ายเงินรางวัล ยืนยันไม่ได้เบี้ยว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 68 ทางด้าน คุณกล้วย เจ้าของสุนัข เข้ามาพบ "ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ รามอินทรา ซึ่งทางด้าน ทนายเดชา กล่าวว่า กรณีของคุณกล้วยเป็นกรณีที่เรียกว่า บุคคลออกโฆษณาให้คำมั่นว่าให้รางวัลแก่ผู้ซึ่งกระทำการอันใด จำต้องให้รางวัลแก่บุคคลใดๆ ก็ได้ที่กระทำการนั้น หมายความว่าการที่เราไปโฆษณาว่าใครเจอหมาแล้วจะให้รางวัล ถึงเวลาต้องให้เขา จะเบี้ยวเขาไม่ได้ ตามมาตรา 362 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ส่วนมาตรา 364 ในกรณีที่บุคคลหลายคน ได้เจอหมาหลายๆคนหรือได้กระทำการตามที่เราโฆษณาไว้หลายคน เฉพาะแต่คนที่กระทำได้ก่อนใครหมดเท่านั้น จะได้รับรางวัล เป็นไปตามมาตรา 364 เพราะฉะนั้นใครที่เจอหมาคนแรกจะได้เงินนั้นไป ซึ่งก็คือร้านทองเหลืองหมูกระทะ ส่วนคนที่เจอคนที่ 2 ไม่มีสิทธิ์ได้รับรางวัล ยกเว้นตามมาตรา 364 วรรค 2 ถ้ากรณีที่เจอหมาพร้อมกัน ก็แบ่งกันคนละเท่าส่วนกัน

เจ้าของหมา ชี้แจงแล้วหลังเจอทัวร์ลง ไม่จ่ายเงินรางวัล ยืนยันไม่ได้เบี้ยว

จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนที่คอมเมนต์อะไรต่างๆ ทำให้เจ้าของสุนัขเสียหาย ด่าทอถึงพ่อแม่ หาว่าเบี้ยวเงินคนที่ 2 ที่เจอหมา ถือเป็นการหมิ่นประมาทได้เพราะไม่รู้กฎหมาย ซึ่งความจริงเจ้าของหมาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินคนที่เจอหมาคนที่ 2 ก็ได้ ให้จ่ายรางวัลให้คนที่ได้เจอหมาก่อนคนแรกเท่านั้น ในกรณีคนที่มีคนเจอหมาคนที่ 2 ซึ่งคือสาวทอมคนดังกล่าว คุณกล้วยจะให้เงินเขาหรือไม่ก็ต้องแล้วแต่คุณกล้วย ซึ่งคนกล้วยก็จะรับพิจารณาต่อไป แต่ตามกฎหมายจริงๆไม่ต้องจ่าย เป็นเพียงเรื่องสินน้ำใจ

ด้านคุณกล้วยกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนไม่ได้คิดว่าหมาหลุดมาจากร้านหมูกะทะ แต่เวลาประมาณ 7.00 น. ถึง 8.00 น. คนที่ชื่อ โอเล่ นะครับ โทรมาหาตน 10 ถึง 20 สาย ว่าเขาเจอหมา ตนเองก็ตกใจจึงโทรไปถามร้านหมูกระทะ ทางร้านบอกว่าพนักงานแค่พาน้องออกไปฉี่เฉยๆ แต่พอเดืนไปตรงโพรงหญ้า ทางสาวทอมเจอน้องหมาเหมือนที่เพจอาสาปทุมประกาศรางวัล 50,000 บาท เขาเลยคิดว่าเอาหมาเข้าบ้านดีกว่าแล้วโทรหาตน ซึ่งคนที่เจอจริงๆ คือร้านหมูกระทะ

เจ้าของหมา ชี้แจงแล้วหลังเจอทัวร์ลง ไม่จ่ายเงินรางวัล ยืนยันไม่ได้เบี้ยว

ส่วนกรณีของแม่บ้านรายวันนั้น คุณกล้วย กล่าวว่าไม่ได้เป็นการข่มขู่ เพียงแค่บอกว่า ถ้าหากว่าเขาหาหมาไม่เจอภายใน 3 วัน ตนจะดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ตนเจอหมาแล้ว แต่ทางแม่บ้านกลับไม่แสดงตัวเลยว่าเขาช่วยหาหมาแบบไหน มีเพียงแค่การที่เขาไปคุยกับคนในกลุ่มเท่านั้นว่าตนไปข่มขู่เขา ซึ่งจริงๆ ตนให้เวลา 3 วัน เพราะตนอยู่ต่างจังหวัด และถ้าแม่บ้านเขาบอกว่าเขาไม่ได้ใส่สายจูงแบบที่ตนบอก ตัวก็รู้สึกว่าเขาไม่ทำตามที่ตนบอกและมีความประมาทที่ทำให้หมาหลุด ซึ่งหาดทำตามที่ตนบอกมาก็จะไม่หลุดเพราะที่ผ่านมาไม่เคยหายไป

ทั้งนี้ จะมีการดำเนินคดีกับตัวแม่บ้านตามกฎหมายแน่นอน โดยตนจ้างแม่บ้านคนดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 67 ถึงวันที่ 2 ม.ค. 68 ซึ่งจะฟ้องศาลแรงงานเรื่องการผิดสัญญาจ้าง รวมถึงการหมิ่นประมาทในกลุ่มว่าตนไปข่มขู่เขา ซึ่งตนให้โอกาสในการจัดการหาหมา แต่เขากลัลไม่สามารถตามหาหมาได้ตามที่ตกลง สุดท้ายทางแม่บ้านมีการทักมาหาตนเพื่อถามว่าเจอหมาที่ไหน ตนจึงบอกว่า เขาไม่จำเป็นต้องรู้เพราะเขาไม่ได้เป็นคนที่หาเจอ

เจ้าของหมา ชี้แจงแล้วหลังเจอทัวร์ลง ไม่จ่ายเงินรางวัล ยืนยันไม่ได้เบี้ยว

คุณกล้วย กล่าวเสริมอีกว่า ตนอยากให้พี่ๆ นักข่าวช่วยแก้ข่าวให้หน่อย เพราะว่าตอนนี้สื่อโซเชียลฟังความแค่ด้านเดียว ไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง ซึ่งร้านทองเหลืองหมูกะทะเป็นคนเจอน้องหมาคนแรก แต่ตนไม่อยากเปิดร้านหมูกะทะเพราะกลัวว่าโซเชียลจะถล่มเขาว่าทำไมให้เงินรางวัลเขาคนเดียว ตนจึงอยากปกป้องร้านหมูกะทะ แต่ว่าข่าวก็ออกไปแล้ว แก้ไขไม่ได้ ตอนนี้ตนยังโดนทัวร์ลงคนเดียว ร้านยังไม่โดน 

ทั้งนี้กับทางสาวทอม ตนยังไม่ได้คุยเป็นกิจลักษณะ เพราะหลังจากที่รับหมามาแล้ว ด้านสาวทอมก็บอกว่า ถ้าพี่ได้รับหมาคืนไปแล้วก็ดีใจด้วย แต่พอข่าวออกไปสักพักนึง สาวทอมกลับมาบอกว่า ทำไมมารับหมาแล้วไม่ให้เงินแบบที่ประกาศ ซึ่งมาพูดหลังจากที่ส่งมอบหมาไปแล้ว เพราะเขารู้ว่าตนจะให้เงินกับทางร้านหมูกะทะ จึงมาถามว่าทำไมไม่ให้เงินเขาและหาว่าไม่จ่ายเขา 50,000 บาท

เจ้าของหมา ชี้แจงแล้วหลังเจอทัวร์ลง ไม่จ่ายเงินรางวัล ยืนยันไม่ได้เบี้ยว