ยึดรถหรูลัมโบร์กีนี สีเขียว "บอสพอล" เจอจอดทิ้งข้างทาง
ยึดเพิ่มรถหรูลัมโบร์กีนี สีเขียว "บอสพอล" มูลค่ากว่า 22ล้านบาท หลังจากตามหา เจอจอดทิ้งข้างทาง แถวๆ วัดลาดพร้าว
คืบหน้าคดีดิไอคอน วันที่ 21 ต.ค. 67 ยึดรถหรูของ "บอสพอล" อีกหนึ่งคัน ซึ่งเป็นรถ LAMBORGHINI HURACAN EVO สีเขียว มูลค่ากว่า 22 ล้านบาท ยอดรวมยึดรถหรู แล้วทั้งหมด 30 คัน แบ่งเป็นการอายัด รถบอสพอล จำนวน 9 คัน
ทางด้านเฟซบุ๊กเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว เปิดภาพรถหรูสีเขียว เจ้าหน้าที่ได้นำ LAMBORGHINI HURACAN EVO (ฮูราแคน อีโว) ที่หายไปมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจาก บอสพอล ถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งได้ตามหามานานหลายวันแล้ว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า รถซูเปอร์คาร์หรู ถูกจอดทิ้งไว้ข้างทาง บริเวณถนนลาดพร้าว-วังหิน ใกล้กับวัดลาดพร้าว
ทางด้าน เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอ ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเยี่ยมกลุ่มผู้ต้องหาคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ระบุว่า ตนเองยังไม่มีโอกาสได้เยี่ยมบอสพอลเนื่องด้วยติดปัญหาทางเอกสาร จึงข้ามไปหาบอสปัน ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถูกคุมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
จุดประสงค์ที่ตนเองตั้งใจเข้าไปพบบอสพอลในวันนี้เพื่อหารือเรื่องงานของบริษัทและคดีความ แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ ในวันนี้ตนเองได้ฝากให้ทนายความของบอสปีเตอร์-นาย กลด เศรษฐนันท์ เป็นธุระแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างตนเองกับบอสพอล ซึ่งขณะนี้ทนายความของทุกผู้ต้องหารวมทั้งบอสดาราผนึกรวมเป็นทีมเดียวกันแล้วเพื่อจะได้ประสานข้อมูลทางคดี
นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่าเรื่องหลักขณะนี้นอกจากแนวทางต่อสู้ทางคดีทีมทนายจะช่วยกันพิจารณาสภาพจิตใจของลูกความตนเองว่าเป็นอย่างไร อยู่กันได้หรือไม่ ส่วนของบอสพอลยังแข็งแรงดี พูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มตามปกติไม่น่ากังวล แต่บอสวิน-นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ น่าเป็นห่วงที่สุดในกลุ่มเพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งต้องได้รับการรักษา ทนายจึงต้องหาทางขอประกันตัวออกมาให้ได้ก่อน
ส่วนการฝากข้อความถึงคนในครอบครัว ทนายความแต่ละท่านจะนำข้อความของแต่ละคนไปพูดคุยกับแต่ละครอบครัวเอง ทั้งนี้กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจาก 2 ข้อหาหลักคือ ฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทางทนายได้ทำความเข้าใจกับลูกความตนเองไปแล้วว่าให้ต่อสู้ในส่วนข้อหาหลักให้จบ
ถ้าข้อหาหลักผ่านไปได้ข้อหาอื่นแม้จะมีโทษหนักกว่าก็จะผ่านไปได้เช่นกัน ทำให้ขณะนี้กลุ่มลูกความไม่ได้กังวลมากนัก ซึ่งทั้งหมดไม่ได้กำชัให้ทนายความทำอะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษ นอกจากเตรียมพยานหลักฐานให้ดี
ยืนยันว่าทางบริษัทขายสินค้าให้ลูกค้า ต้องแสดงหลักฐานว่ามีการซื้อขายจริง ส่งมอบสินค้าจริง มีเอกสารชัดเจน จากนี้ต้องแล้วแต่ดุลยพินิจของศาลว่าจะมองอย่างไร ส่วนที่สังคมมองว่ามีการระดมชวนคนมาลงทุน ตนมองว่าเป็นการให้คนเข้ามาเปิดบิลสินค้ามากกว่า