ดาราดังเวียดนามติดใจเมนูเด็ดเมืองไทย อร่อยจนหยุดไม่ได้ สุดท้ายไปจบที่ รพ.
ดาราดังชาวเวียดนามโดนเข้าให้ หลังกิน "เมนูเด็ด" ในเมืองไทยมากเกินไป นักแสดงรุ่นน้องเตือนแล้วไม่ฟัง สภาพล่าสุดแฟนคลับตกใจ
กำลังเป็นที่สนใจในบรรดาชาวเน้ตและแฟนคลับอย่างมาก หลังจากที่มีรายงานว่า เล ซาง นักแสดงหญิงชาวเวียดนาม ถูกพาตัวส่งเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ภายหลังจากเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยแล้วเกิดติดใจ "เมนูเด็ด" จนทำให้กินเข้าไปในปริมาณมาก และส่งผลให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ
โดย ตรินห์ มินห์ ซุง นักแสดงหนุ่มรุ่นน้องของเล ซาง ได้แชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านทางโซเชียลมีเดีย เผยว่า ในวันเกิดเหตุคืนนั้นทั้งสองนอนไม่หลับกันทั้งคืน เขาได้ออกไปตระเวนหาร้านขายยาตั้งแต่เวลา 05:30 น. เพื่อหาซื้อยาให้กับพี่สาวคนสนิท
ซึ่งในเวลานั้นเธอมีอาการอาเจียนและท้องร่วง แต่หลังจากที่เธอได้กินยา ก็ยังมีอาการอยู่ เธอบอกว่า ปวดเกร็งหน้าท้องมาก เขาจึงไปที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อน้ำ โยเกิร์ต และชาขิง มาให้เธอ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
ต่อมา เวลาประมาณ 08:00 น. นักแสดงหนุ่มจึงได้ตัดสินใจพาเล ซาง ไปเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล จากนั้นแพทย์ได้ให้ยา ให้น้ำเกลือ และฉีดยาให้กับเธอ ก่อนที่จะให้เธอนอนพักเพื่อดูอาการสักระยะ
ทั้งนี้ยังมีภาพแสดงให้เห็นว่า เธอนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล มีสีหน้าทรมานจากอาการปวดท้องและบิดตัวไปมา จนกระทั่งอาการดีขึ้นเธอก็ได้รับอนุญาตให้กลับได้ โดยค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 7,000 บาท
อีกทั้ง ตรินห์ มินห์ ซุง เล่าว่า ก่อนหน้านี้ เขาได้เตือนพี่สาวให้ระวังเรื่องการกินอาหารทะเลดิบ แต่เล ซางบอกว่าไม่เป็นไร ค่อยๆ กินไปเรื่อยๆ ได้ โดยตอนที่มาเที่ยวประเทศไทย เธอเห็นว่าหอยแครงอร่อย จึงสั่งมากินคนเดียวถึง 3 จาน แถมยังกินเค้กและทุเรียนในมื้อเดียวกันด้วย คืนนั้นเธอเลยอาเจียนและเกิดอาการอาหารเป็นพิษ
"จากนี้ฉันไม่กล้ากินอาหารดิบอีกต่อไป มันเจ็บปวดมาก" เล ซาง กล่าวว่า นี่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับเธอ และเธอจำเป็นต้องระมัดระวังในการกินและดื่มหลังจากนี้
หลังจากตรินห์ มินห์ ซุง โพสต์แชร์เหตุการณ์ดังกล่าวไปทางโซเชียล ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก พากันเข้าไปคอมเมนต์สอบถามเกี่ยวกับอาการป่วยของนักแสดงสาว ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางนักแสดงหนุ่มเผยว่า พวกเขาได้เดินทางกลับมาที่เวียดนามได้เป็นสัปดาห์แล้ว และขณะนี้อาการของพี่สาวของเขาดีขึ้นแล้ว มั่นใจได้ว่าเธอปลอดภัยสบายดี
ข้อมูลจาก Baomoi
ภาพจาก Trịnh Minh Dũng