หอบหลักฐานพิสูจน์ "แก้มบุ๋ม-แม่ลี-แน็ก ชาลี" เผยความสัมพันธ์ แม่ตั๊ก
3 คนดัง "แก้มบุ๋ม-แม่ลี-แน็ก ชาลี" เผยความสัมพันธ์ แม่ตั๊ก หลังไปไลฟ์ขายทองด้วยหลายครั้ง หอบหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์
วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ที่กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค นายชาลี ไตรรัตน์ หรือ แน็ก ชาลี, น.ส.ปรียาดา สิทธาไชย หรือ แก้มบุ๋ม และ นางศริญญา สิทธาไชย หรือ แม่ลี นักแสดงและอินฟลูเอ็นเซอร์ พร้อมนายสุรพล แจ้งใจ ทนายความ หอบเอกสารเดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก. ปคบ. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ กรณีร่วมไลฟ์สดขายทองกับน.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์
แน็ก ชาลี กล่าวว่า ส่วนตัวตนมีการไลฟ์กับแม่ตั๊กไป2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารเสริมไฟเบอร์ ส่วนอีก 1 ครั้งเป็นสบู่กับครีมกันแดด ไม่มีการไลฟ์สดขายทอง ในวันนี้ตำรวจไม่ได้นัดตนมาและตนไม่ได้มีรายชื่อ แต่ตนมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และตนก็ได้นำเอกสารของทางบริษัทตน และบริษัทของแม่ตั๊ก ที่มีหลักฐานการรับเงินที่มีการชี้แจงชัดเจน ยืนยันไม่มีความสนิทสนมส่วนตัว ตนไม่มีความกังวลใดๆทั้งสิ้น
แม่ลี กล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวของตนกับแม่ตั๊ก ตนขอแจ้งว่าตนเป็นคนสนุกที่ทำงานสนุก ตนเพียงทำงานเกิน 100 ที่แม่ตั๊กได้จ้างเพราะอยากทำให้ประทับใจ และอยากเป็นกันเองจะได้ทำงานได้ง่ายขึ้น ยืนยันว่าเป็นเพียงเรื่องงาน และตนไม่เคยรับของอะไรจากแม่ตั๊ก
แก้มบุ๋ม เปิดเผยว่า ตนกับแม่ลีเคยได้รับการว่าจ้างจากแม่ตั๊กให้ตนและแม่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม LB โกโก้กับกาแฟ และได้ไปไลฟ์สดขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว แต่ไม่เคยไปไลฟ์สดขายทอง ซึ่งก่อนรับงานตนก็ได้มีการตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นอย. หรือตรวจสอบรายละเอียดสินค้าและทดลองกิน โดยตามสัญญาว่าจ้างมีอายุ 1 ปี ตนกับแม่จะต้องไลฟ์สด 12 ครั้ง ครั้งละ 1 ชม. และโชว์ตัว 1 ครั้งเท่านั้น และตนกับแม่ไลฟ์สดครบแล้วทั้ง 12 ครั้ง และสำหรับการแจกของไม่ว่าจะเป็นซองแดง หรือแหวนทองต่างๆ ให้แก่ลูกค้าผู้โชคดีซึ่งมีเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วทุกไลฟ์สด และตนกับแม่เป็นรับเงินค่าตัวเป็นก้อนเพราะเป็นพรีเซนเตอร์ และหากขณะไลฟ์ขายสินค้าที่ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์แล้วมีสินค้าอื่นเข้ามา ตนก็จะเดินออกจากไฟ์สดดังกล่าวทันที นอกจากนี้ตนเกือบเป็นอีกคนที่ไปซื้อทองของแม่ตั๊ก เพราะตนก็ไม่รู้เรื่องทอง เพราะก็ไม่สามารถดูได้ว่าเป็นของมาตรฐานหรือไม่
พ.ต.ท.ปริญญา กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ดาราหรืออินฟลูเอนเซอร์ได้ร่วมไลฟ์สดกับแม่ตั๊ก และทำให้ผู้เสียหายตัดสินใจซื้อทองนั้น จะมีความผิดร่วมด้วยหรือไม่ ก็ต้องดูเอกสารดูพฤติการณ์ประกอบสำนวนคดี เพราะขณะนี้ได้อยู่ในขั้นตอนของการเรียกมาสอบสวน และต้องดูว่ามีเจตนาหรือไม่เจตนาอย่างไร เพราะบางรายอาจเป็นเพียงแค่มาไลฟ์สดขายสินค้าอื่นๆ หรือมาร่วมไลฟ์สดขายทองแต่ไม่ได้รู้ว่าทองเป็นของปลอมหรือของที่ไม่ได้มาตรฐาน และถูกจ้างมาให้พูดตามสคริปต์ ก็ต้องมาดูรายละเอียดกันอีกครั้ง แต่หากพบว่ามีการรู้เห็นเป็นใจถึงพฤติการณ์ของแม่ตั๊ก ก็อาจจะเข้าข่ายความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนหรือเป็นตัวการร่วมด้วย แต่โดยรวมแล้วพวกดาราและอินฟลูเอ็นเซอร์หลายๆคนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี มีการนำเอกสารต่างๆมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์