สลาก 3 หลัก N3 เริ่ม 17 ต.ค.นี้ จ่าย 20 ลุ้น 4 รางวัล
หวย N3 มาแล้ว! เตรียมตัวให้พร้อมกับสลาก 3 หลักตัวใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมโอกาสในการลุ้นรางวัลมากถึง 4 รางวัล ด้วยราคาเพียง 20 บาทเท่านั้น เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมเป็นต้นไป ที่จุดจำหน่ายทั่วประเทศ
สลาก 3 หลัก หรือ หวย N3 หลายคนสงสัยว่าคือหวยอะไร มีความพิเศษยังไง วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกันค่ะ
วันที่ 2 ต.ค.2567 นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เห็นชอบการทดลองออกสลากตัวเลข 3 หลัก ในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) ให้กับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่งวดวันที่ 1 พ.ย.2567
โดยจะเก็บรวมรวมข้อมูลการจำหน่าย ผลกระทบต่อลูกค้าและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งผลต่อการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน และจะเริ่มจำหน่ายเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่เดือนเม.ย. 2568 เป็นต้นไป
ช่วงทดลองจำหน่าย 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 17 ต.ค. 67 – มี.ค. 68 จะเปิดขายสลาก N3 กำหนดการซื้อแต่ละงวด เริ่มต้นที่ 2 ล้านชุดเลขหมาย วงเงินในการซื้อขาย 40 ล้านบาท
สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก N3 เพื่อดึงราคาสลากใบที่ยังเกินราคาลงมา และได้ผลทางอ้อม คือ เนื่องจาก N3 มีรูปแบบใกล้เคียงกับหวยใต้ดิน คาดว่าจะดึงเงินออกจากระบบหวยใต้ดินได้ โดยปัจจุบันมีข้อมูลจากงานวิจัย พบว่า หวยใต้ดินมีมูลค่าสูงถึง 100,000-300,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับกระบวนการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำเกณฑ์การคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย และข้อกำหนดต่าง ๆ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้อง
เสร็จสิ้นและพร้อมให้ดำเนินการก่อนเปิดจำหน่ายเต็มรูปแบบ
พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลักในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) จะจำหน่ายในราคาใบละ 20 บาท สามารถเลือกซื้อได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีเลขอั้น โดยผู้ซื้อสามารถซื้อสลากในช่วงทดสอบจำหน่ายได้ที่ “ร้านค้าโครงการสลาก 80 ทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ” กว่า 400 แห่งทั่วประเทศ สามารถสแกนตรวจสอบจุดจำหน่ายได้จากแอปพลิเคชันเป๋าตัง และทำรายการซื้อสลากพร้อมชำระเงินผ่านอุปกรณ์ที่สำนักงานสลากฯ ได้ติดตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการที่ต้อง ชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลเท่านั้น
ผลรางวัล
สำหรับประเภทสมทบเงินรางวัล กำหนด 4 รางวัล ดังนี้
– รางวัลสามตรง ตรงเลข-ตรงหลัก ตัวเลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัลทั้งสามหมายและตรงหลักทั้งสามหลักของผลการออกรางวัลที่ 1 (สลากหกหลัก) โอกาสถูกรางวัล 1/1,000
– รางวัลสามสลับหลัก ตรงเลย-สลับหลัก ตัวเลยที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัลทั้งสามหมายเลย แต่ไม่ตรงหลักอย่างน้อยสองหลัก ของผลการออกรางวัลที่ 1 (สลากหกหลัก) โอกาสถูกรางวัล 1/200 และ 1/500
– รางวัลสองตรง ตรงเลข-ตรงหลัก รางวัลสองตรงมาจากผลรางวัลเลขท้าย 2 ตัว (สลากหกหลัก) โอกาสถูกรางวัล 1/100
– รางวัลพิเศษ ออกรางวัลเป็นหมายเลขรางวัลพิเศษ สุ่มจากผู้ถูกรางวัลสามตรงเท่านั้น โดยจะมีการออกรางวัลพิเศษภายหลังจากการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักเสร็จสิ้นในแต่ละงวด
การออกรางวัล
ออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง วันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน
สัดส่วนเงินรางวัล
ด้านสัดส่วนเงินรางวัล จากเงินรางวัล 60% นั้น แบ่งเป็น
1.รางวัลสามตัวตรง สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 30%
2.รางวัลสามสลับหลัก สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 30%
3.รางวัลสองตรง สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 39%
4.รางวัลพิเศษ สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 1%
สำหรับการจัดสรรรายได้จากการจำหน่าย ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1.เป็นเงินรางวัล 60% ส่วนที่ 2.ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และส่วนที่ 3.ไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน
เงินรางวัล
สำหรับเงินรางวัลเป็นรูปแบบผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อในแต่ละหมายเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้น ๆ
ทั้งนี้ หากประเภทรางวัลใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะสมทบเงินรางวัลดังกล่าวไปยังงวดถัดไป ตามประเภทรางวัล และหากในงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัลอีกจะต้องนำเงินที่สมทบดังกล่าวนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
การจ่ายรางวัล
สำหรับการจ่ายรางวัล ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับการเตือนในแอปพลิเคชันเป๋าตัง และสามารถกดรับเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ทันที โดยจะต้องมีการชำระค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท ต่อเงินรางวัล 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท และการรับเงินโดยวิธีการโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีธนาคาร โดยธนาคารกรุงไทย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
พ.ท.หนุน กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ จะจำหน่ายสลากด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ ไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถซื้อสลากได้ การกำหนดพื้นที่ในการจำหน่ายสลากห้ามใกล้กับสถานศึกษา เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักแบบดิจิทัล