หนุ่มเสียทั้งใจ - เงิน หลงกลเมียเศรษฐี ตามหาคนทำให้ "ท้อง" แลกกับเงินล้าน
หนุ่มสนใจเห็น "เมียเศรษฐี" ประกาศตามหาคนที่ทำให้ "ท้อง" ได้ แลกกับเงินล้าน สุดท้ายเสียทั้งใจ แถมยังเสียทั้งเงิน
นับเป็นเป็นคดีที่ชาวมาเลเซียให้ความสนใจอย่างมาก หลังจากที่เกิดกรณีของ ชายหนุ่มรายหนึ่งในประเทศมาเลเซีย ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานบริการสาธารณะและการร้องเรียนพาเขาออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเล่าว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเห็นโฆษณาบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เกี่ยวกับ "ภรรยาเศรษฐี" ที่กำลังมองหา "สเปิร์ม" เนื่องจากเขาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวและต้องการหาเงินเพิ่ม จึงสมัครใจติดต่อเข้าไปหวังจะเป็น "ผู้ให้ยืมน้ำอสุจิ"
หลังจากนั้นเขาได้รับแจ้งจากผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 34 ปี แต่งงานกับนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ผู้มั่งคั่ง และตอนนี้อาศัยอยู่ที่สิงคโปร์ เธออ้างว่าขณะนี้เธอกำลังมองหาน้ำอสุจิเพื่อตั้งครรภ์ โดยทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์กัน และต้องทำเช่นนั้นเรื่อยๆ จนกว่าการตั้งครรภ์จะเสร็จสิ้น แล้วจึงจะจ่ายค่าจ้างให้ในราคา 1,000,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือ ประมาณ 7,920,000 บาท
ชายหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อเล่าต่อด้วยว่า เขาเห็นรูปถ่ายของบุคคลที่อ้างว่าคือ "ภรรยาเศรษฐี" นั้น ภาพลักษณ์ของเธอค่อนข้างสวมงามและอ่อนโยน และหลังจากได้พูดคุยกับเธอทางโทรศัพท์ เขาก็เริ่มหมกมุ่นอยู่กับเธอโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าเธอจะยืนกรานให้ใช้เพียงการโทร และปฏิเสธวิดีโอคอล ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่เคยเห็นหน้ากันก็ตาม แต่เขาก็ไม่มีความสงสัยใดๆ ในตัวอีกฝ่ายเลย
ต่อมา บุคคลที่อ้างว่าเป็นทนายความของภรรยาเศรษฐีคนดังกล่าว ได้ติดต่อมาหาเหยื่อ เพื่อแจ้งว่าเขาจำเป็นต้องลงนามในสัญญาการรักษาความลับ และชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมความจริงใจ ค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมการรับรองระหว่างประเทศ และภาษี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 24,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือราวๆ 190,000 บาท
ชายหนุ่มซึ่งตกเป็นเหยื่อเชื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอย่างสมบูรณ์และจ่ายค่าธรรมเนียม 24,000 ริงกิต ไปให้ กระทั่งมีทนายความติดต่อมาอีกครั้งขอให้เขาจ่ายเงินมัดจำ 30,000 ริงกิตมาเลเซีย เขาก็รู้สึกประหลาดใจว่ามีบางอย่างผิดปกติ ต่อมาเมื่อเขาลองสอบถามเรื่องนี้กับทาง ผอ.สำนักงานบริการสาธารณะและการร้องเรียน ก็พบว่าเขาตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า แท้จริงแล้วโดยตัวตนของภรรยาเศรษฐีคนดังกล่าว เป็นการขโมยรูปของหญิงสาวคนอื่นมาสวมรวย ในขณะที่สำนักงานกฎหมายที่กล่าวอ้าง ก็ขโมยชื่อของสำนักงานอื่นมาเช่นกัน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ คล้ายกับเหยื่อหนุ่มรายนี้ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเอาเงินไปนั่นเอง
ข้อมูลจาก mirrormedia , Oriental Daily News Malaysia , am730