"เงินดิจิทัล 10,000 บาท" เปิดเหตุผล พระสงฆ์ ได้รับสิทธิ์
เงินดิจิทัล แจกเงิน 10000 "ภูมิธรรม เวชยชัย" เปิดเหตุผล พระสงฆ์ ได้รับสิทธิ์ "เงินดิจิทัล 10,000 บาท" ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน
"พระสงฆ์ มีสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท" วันที่ 25 ก.ค. 67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง "โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท" เผยว่า พระสงฆ์ถือเป็นพลเมืองได้สิทธิได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ซึ่งเป็นเลขประจำตัวบุคคลอยู่แล้ว โดยจะมีการเปิดลงทะเบียนในครั้งที่ 2 และจะมีการแถลงข่าวในรายละเอียดถัดไปให้ได้ทราบอีกครั้ง
สำหรับประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน จะเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 โดยดำเนินการผ่านแอปฯทางรัฐ บนสมาร์ทโฟน โดยไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิในโครงการ
ส่วนประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะเปิดให้ลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567 ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ สถานะบุคคลที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เช่นเดียวกับกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน โดยสามารถใช้จ่ายโดยใช้บัตรประชาชน แต่จะมีข้อจำกัดที่มากกว่าในการใช้ คือ
- จะต้องใช้กับร้านที่เปิดบริการของสมาร์ทโฟน ในขณะที่มีการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เพราะจำเป็นจะต้องยืนยันสถานที่ และเป็นการซื้อขายแบบเฟซทูเฟซ
- ทุกครั้งที่มีการซื้อขาย จะต้องมีการบันทึกภาพของผู้ที่นำบัตรประชาชนไปใช้ เพื่อตรวจสอบกับทะเบียนว่า ผู้นำบัตรไปใช้เป็นเจ้าของบัตรจริงๆ
เงื่อนไขการใช้จ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า
- ใช้จ่ายได้กับร้านค้าขนาดเล็ก ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
- ในการซื้อสินค้า หากประชาชนมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในอำเภอใด ก็ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าในอำเภอเดียวกันเท่านั้น และต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) ซึ่งคำว่าซื้อขายแบบพบหน้านี้ จะมีการตรวจสอบ
- ที่อยู่ของร้านค้าตามที่ลงทะเบียนโครงการ
- ที่อยู่ของประชาชนตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการ
- พิกัดที่อยู่ของประชาชนในขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้าต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกันการชำระเงินจึงจะสมบูรณ์
การใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า
- ร้านค้าทุกประเภทสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) จึงซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้แม้จะอยู่ต่างพื้นที่ และสินค้าประเภท Negative List