สามีโกรธท้าภรรยาให้เงิน 50 ล้าน หลังไปทำหมันแต่ภรรยายังตั้งท้อง
สามีโกรธจัด คิดว่าภรรยานอกใจ ท้าให้เงิน 50 ล้าน หลังไปทำหมันแต่ภรรยายังตั้งท้อง ผลตรวจ DNA ออก ทำเอาคาดไม่ถึง
"ทำหมันแล้วยังท้อง" เรื่องนี้กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เว็บไซต์ CTWANT เผยเรื่องราวของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งในประเทศจีน ที่ไม่นานมานี้ ครอบครัวของทั้งสองต้องเผชิญเหตุความร้าวฉานอย่างที่คาดไม่ถึง
ต้นเหตุครอบครัวพังครั้งนี้เกิดขึ้นมาจาก ภรรยาตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 ทั้งที่สามีได้ทำหมันไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางภรรยาจึงถูกกล่าวหาว่านอกใจถึงขนาดมีการพนันท้าทายด้วยความโกรธแค้นว่า หากผลตรวจ DNA ออกมาพบว่าเป็นลูกของสามีจริง เขาจะโอนบ้านพร้อมเงินให้ 50 ล้าน
ด้าน หลู่ จินเหิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ได้เปิดเผยกรณีเคสหายากนี้ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ก่อนหน้านี้ คู่สามีภรรยาดังกล่าวมีลูกด้วยกัน 2 คน หลังจากลูกๆ เข้าโรงเรียนประถมศึกษา ทางสามีก็ได้ตัดสินใจทำหมันจนสำเร็จ แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นหนึ่งปีต่อมา ทางภรรยาของเขากลับตั้งครรภ์ขึ้นมา นั่นทำให้ทางสามีโกรธมากเพราะเข้าใจว่าเธอมีชู้ แต่ทางภรรยาปฏิเสธและยืนกรานว่าเธอไม่ได้นอกใจแน่นอน
ทั้งนี้ภรรยาก็รู้สึกโกรธมากเช่นเดียวกันที่สามีของเธอไม่ไว้ใจเธอ กล่าวหาว่าเธอไม่ซื่อสัตย์และพูดจาคำหยาบคายใส่เธอ เธอจึงประกาศท้าว่า หากผลตรวจ DNA หลังคลอดพบว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของสามี เธอยินดีที่จะออกจากไปเลี้ยงลูกตามลำพัง และพร้อมที่จะยกเลิกการสมรส
แต่หากไม่ใช่เช่นนั้น ถ้าเด็กเป็นลูกของสามีจริง เขาจะต้องโอนกรรมสิทธิ์บ้านทั้งหลังเป็นชื่อของเธอ รวมทั้งโอนเงินในบัญชีอีก 10 ล้านหยวน หรือ ราวๆ 50 ล้านบาทมาให้เธอ ซึ่งทางสามียอมยกลงตามเงื่อนไขของภรรยา แต่ในขณะเดียวกันเขาก็แอบมาปรึกษากับทางคุณหมอ
หมอหลู่ จินเหิง ได้อธิบายว่า การผ่าตัดทำหมันชายถาวรด้วยวิธีการดั้งเดิม จะใช้การตัดและผูกท่อนำอสุจิ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิจากอัณฑะเคลื่อนมายังถุงพักเชื้ออสุจิ ทำให้น้ำอสุจิที่หลั่งออกมาไม่มีตัวอสุจิ ดังนั้นมีโอกาสน้อยมากที่ตัวอสุจิจะออกมาได้ แต่ในบางครั้งก็มีกรณีที่พบว่า ยังมีตัวอสุจิเหลืออยู่เล็กน้อยหลังจากการทำหมัน
อีกทั้ง หลู่ จินเหิง ยังอธิบายด้วยว่า บางคนจะยังตรวจพบตัวอสุจิในน้ำอสุจิอยู่บ้าง ในช่วงครึ่งปีไปจนถึง 1 ปี หลังจากการทำหมัน แม้ว่าการทำหมันจะสำเร็จและโอกาสตั้งครรภ์มีน้อยมากก็จริง แต่ในทางทฤษฎี ตราบใดที่ตัวอสุจิยังมีชีวิตก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ ซึ่งการทำหมันชายด้วยวิธีการดั้งเดิม โดยการตัดและผูกท่อนำอสุจินั้น มีโอกาสประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ ที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้
ในกรณีของสามีรายนี้ ท้ายที่สุดทางแพทย์ได้ตรวจพบตัวอสุจิที่มีชีวิตจำนวนหนึ่ง แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะไม่ดีนักก็ตาม ทางสามีจึงยอมเชื่อว่าภรรยาไม่ได้นอกใจ จึงได้ยุติการข้อขัดแย้งกับเธอ จนกระทั่งเธอให้กำเนิดลูกออกมา ผลการตรวจทางพันธุกรรมก็ยืนยันชัดเจนว่า เขาเป็นพ่อของเด็กโดยสายเลือด
อย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้เปิดเผยว่า ทางสามีได้โอนบ้านและเงินจำนวนดังกล่าวให้กับทางภรรยาตามที่ตกลงหรือไม่ หรือมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันไปแล้ว
ข้อมูลจาก CTWANT, China Times