สอศ.-กฟผ. สร้างความยั่งยืน ด้วยโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
สอศ. จับมือ กฟผ. น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สานต่อโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้สังคม ชุมชนทั่วประเทศต่อเนื่องกว่า 20 ปี
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดพิธีลงนามความร่วมมือและมอบรางวัลโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด "20 ปีชีววิถี สร้างประโยชน์แก่พื้นที่อย่างยั่งยืน" ณ กฟผ. สำนักงานใหญ่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยมีพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยเรืออากาศโทสมพร ปานดำ รองเลขาธิการ สอศ. นายเมธาวัจน์ พงศ์รดาภิรมย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการยุทธศาสตร์องค์การ กฟผ. คณะผู้บริหาร และแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธี
การลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2567 – 2571 ระหว่าง สอศ. และ กฟผ. ในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดขยายผล โดยบูรณาการการดำเนินงานโครงการชีววิถี เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กับโครงการ โคก หนอง นา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มบริบทในการบริหารจัดการน้ำ ปรับลดข้อจำกัดในการดำเนินกิจกรรมให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเปิดกว้างในการใช้สารชีวภาพที่หลากหลาย มุ่งเน้นการขยายผลสู่ชุมชน และส่งเสริมให้เกิดการต่อยอด ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่
ตั้งแต่ปี 2546 สอศ. และ กฟผ. ได้ร่วมกันดำเนินโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ด้วยการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ระหว่างธรรมชาติและการดำรงชีวิตของมนุษย์ นำทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มาพัฒนาเพื่อใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เน้นการปลอดสารพิษเป็นหลักสำคัญ ไม่ก่อหนี้สิน คำนึงถึงการรักษาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยดำเนินงานในสถานศึกษาสังกัด สอศ. ที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 110 แห่งทั่วประเทศ พร้อมขยายผลสู่ครู นักเรียน โรงเรียน และชุมชนรอบบริเวณสถานศึกษา ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการจัดทำสิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องในโครงการฯ รวมถึงผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มภายในชุมชน สร้างอาชีพด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน
นอกจากนี้ ภายในงานได้มีการมอบรางวัลการประกวดผลงานโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ระหว่างปี 2563 – 2565 รวมทั้งสิ้น 104 รางวัล และจัดแสดงนิทรรศการ ผลงาน สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรม จากสถานศึกษา และชุมชนที่ได้รับรางวัล อาทิ ชุดชิงช้าปลูกผักเลี้ยงปลาระบบรีไซเคิลน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ จากวิทยาลัยการอาชีพไชยา ชุดปฏิบัติการเครื่องให้อาหารฉีดพ่น EM ให้น้ำพืชอัตโนมัติพลังงานแสงอาทิตย์ ควบคุมด้วย Smartphone พร้อมกล้องวงจรปิด จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร
ตลอดระยะเวลา 20 ปี ของการดำเนินงานโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ได้สร้างบุคลากรทางการศึกษา และราษฎรได้นำโครงการชีววิถีฯ ไปใช้ขยายผลดีเด่น มากกว่า 360 คน เกิดชุมชนต้นแบบชีววิถี จำนวน 474 ชุมชน และได้ยกระดับเป็นวิสาหกิจชุมชนถึง 18 แห่ง หรือ 2,346 ครัวเรือน อีกทั้งมีโรงเรียนที่ได้รับความรู้จากวิทยาลัยและนำไปใช้ได้ผลดีเด่นจำนวน 22 โรงเรียน เกิดงานวิจัย สิ่งประดิษฐ และนวัตกรรม มากกว่า 300 ผลงาน
ซึ่งทางด้านของ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีลงนามความเข้าใจความร่วมมือโครงการชีววิถี เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2567-2571 นับว่าเป็นความร่วมมือที่สำคัญระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากับกฟผ. ที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินการ เป็นเวลาถึง 20 ปี ซึ่งในปัจจุบันรัชกาลที่ 9 ท่านได้รักษาและต่อยอดทุกเรื่องในโครงการพระราชดำริ ที่ผ่านมาโครงการชีววิถีได้สร้างประโยชน์ให้สถานศึกษา ครู อาจารย์ นักเรียน สร้างการคิด การลงมือ การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับชุมชนและท้องถิ่น รวมไปถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สิ่งที่ผมได้รับฟังจากคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผมคิดว่าคงได้ทำมาอย่างเต็มที่แล้ว ผมเองและคณะองคมนตรีที่ได้รับผิดชอบโครงการเกี่ยวกับการศึกษา ผมอยากจะให้นักศึกษาครูอาจารย์ในอาชีวศึกษาได้ขยายผลออกสู่นอกโรงเรียนมากขึ้น ในอนาคตนี้ทั้งโรงเรียนสามัญเองก็จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
ผมอยากขอให้เพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด เพราะจะทำให้ประเทศของเราในอนาคตยังจะเจริญเติบโตด้วยสิ่งแวดล้อมและด้านเกษตรกรรมที่ดี ถ้าเราดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมความสามารถด้านการเกษตรต่อไป มันจะก็ส่งผลไปถึงระดับสามัญ ประถม มัธยม อย่างแน่นอน เพื่อเป็นประโยชน์ในการขยายผล และพัฒนาที่อยู่อาศัยให้อุดมสมบูรณ์และอยู่ดีกินดี