ตร.บุกทลายโรงงาน "ครีมเถื่อน" ไร้มาตรฐานย่านบางมด ยึดของกลางหลายรายการ
สืบนครบาล ร่วม อย. ปฏิบัติการช่วยสาวผู้เคราะห์ร้าย บุกทลายโรงงาน "ครีมเถื่อน" ไร้มาตรฐานย่านบางมด ยึดของกลางหลายรายการ
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 น.1 สั่งการสืบนครบาลร่วมกับ อย. บุกทลายโรงงานผิดกฎหมาย หลังพบลูกจ้างรายหนึ่งสภาพแผลเหวอะหวะ จากการถูกน้ำร้อนลวกทั่วตัว ผลการตรวจค้นพบสภาพไม่ได้มาตรฐาน ขณะตรวจค้นคนงานนั่งเทผลิตภัณฑ์บรรจุลงแกลลอน ไม่สวมสิ่งป้องกันใดๆ กวนกับไม้พายกับพื้น สภาพสกปรกไม่เหมือนกับภาพที่แสดงตามสื่อโซเชียล ที่ลงภาพคนงานใส่ชุดขาวสวมหมวก ถุงมือยางกันสิ่งเจือปนผลิตภัณฑ์อย่างมีมาตรฐาน และยังตรวจค้นพบผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายหลายรายการ อาจจะเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่นำไปใช้ และลูกจ้างที่ทำงานในโรงงานแห่งนี้ได้รับบาดเจ็บ
จากเหตุการณ์ หญิงสาวรายหนึ่งขอความช่วยเหลือผ่านเพจดัง และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ว่า "ตนเองได้รับประสบอุบัติเหตุจากการทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอถูกน้ำร้อนลวกโดยไม่ได้ใส่ชุดป้องกัน ทำให้เป็นแผลเหวอะหวะทั่วร่างกาย ซึ่งหลังเกิดเหตุเธอได้รับเงินเยียวยาจากนายจ้างเพียงแค่ 1,000 บาท ซ้ำยังยื่นใบลาออกให้เธอเซ็นชื่อ จนถึงปัจจุบันนี้เธอยังไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้ และจากสภาพครอบครัวของเธอที่มีลูกอ่อนเพียง 2 เดือน ต้องพบกับความยากลำบากจนไร้หนทาง" จึงได้ขอความช่วยเหลือมาที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ผ่านทางเพจชื่อดัง
เมื่อ พล.ต.ท.ธิติฯ เห็นสภาพบาดแผลตามร่างกายแล้วไม่สามารถนิ่งเฉยได้ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ให้ความช่วยเหลือในทันที โดยจากการสืบสวนแล้วทราบว่าสภาพภายในโรงงานที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้าน 2 ชั้น จำนวน 5 คูหา สภาพคับแคบและไม่มีระบบป้องกันความปลอดภัยใดๆ อีกทั้งยังสืบทราบว่าเป็นโรงงานที่มีการลักลอบผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบนครบาล , สน.บางมด และเจ้าหน้าที่ อย. ร่วม 40 ชีวิต นำหมายค้นศาลแขวงธนบุรี เข้าตรวจค้นโรงงานดังกล่าว แขวงจอมทอง เขตจอมทอง จ.กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นพบของกลางผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายหลายรายการ โดยขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบพนักงานหลายรายอยู่ในสภาพ นั่งเทผลิตภัณฑ์บรรจุลงแกลลอน ไม่สวมสิ่งป้องกันใดๆ กวนกับไม้พายกับพื้น สภาพสกปรกไม่เหมือนกับภาพที่แสดงตามสื่อโซเชียล ที่คนงานใส่ชุดขาวสวมหมวก ถุงมือยางกันสิ่งเจือปนผลิตภัณฑ์อย่างมีมาตรฐาน เรียกได้ว่าไม่ตรงปกแบบสุดๆ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดของกลางหลายรายการ และได้จับกุมตัว นายฐิติวัชร์ อายุ 63 ปี เจ้าของโรงงาน
โดยถูกแจ้งข้อหาว่า
- ขายเครื่องสำอางไม่จดแจ้งตามมาตรา 14 วรรคหนึ่ง ฝ่าฝืน ม.32(1) มีโทษตาม ม.78 วรรคหนึ่ง
- ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่เป็นไปตามมาตรา22 วรรค2 (2) ฝ่าฝืน ม.32(4) มีโทษตาม ม.68 วรรคสอง
- สถานที่ผลิตเครื่องสำอางปฏิบัติไม่สอดคล้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอาง พ.ศ.2561 ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 14 วรรคสาม มีบทลงโทษตามมาตรา 63
- พบการผลิตเครื่องสำอางปลอม ฝ่าฝืน ม.27(2) ประกอบม.29(1) และ (4) มีบทลงโทษตามม.75 วรรคหนึ่ง
- ผลิตไม่ตรงตามที่จดแจ้ง ฝ่าฝืนม.26 มีบทลงโทษตามม.71
- ฉลากแสดงข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ม.22 วรรคสอง (1) มีบทลงโทษตามม.67 วรรคหนึ่ง
- ผลิตไม่จดแจ้ง ฝ่าฝืน ม.14 วรรคหนึ่ง มีบทลงโทษตามม. 62
- ไม่มีฉลากภาษาไทย ฝ่าฝืนม.22 วรรคสอง (2) มีบทลงโทษตามม.68 วรรคหนึ่ง
พร้อมตรวจยึดของกลางกว่าหลายรายการ ดังนี้
- กะละมังผสมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง บรรจุของเหลวพร้อมนำไปบรรจุภัณฑ์ 11 ใบ
- พร้อมอุปกรณ์การผลิต จำพวก ไม้พาย , กระบวย , กะละมัง และหม้อต้ม หลายรายการ
- ผลิตภัณฑ์โลชั่นนวดฝ่าเท้า 83 แกลลอน
- ผลิตภัณฑ์น้ำหอม เจลอาบน้ำ ผิดกฎหมาย จำนวน 580 ขวด (ผลิตในบ้าน)
- ผลิตภัณฑ์น้ำหอม 2,976 ชิ้น
ในชั้นจับกุม นายฐิติวัชร์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมแจ้งว่าจะปรับปรุงแก้ให้ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการรับรองจาก อย. จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางมด ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะประสานงาน หน่วยงานแรงงาน ดำเนินการต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า "การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการด้วยตนเอง เพราะหากโรงงานเถื่อนแห่งนี้ไม่ถูกปราบปราม จะเป็นภัยต่อพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป อีกทั้งกระบวนการผลิต ก็ไม่ได้มาตรฐานมีความสกปรก และลูกจ้างในโรงงานก็ได้รับความเสี่ยงเพราะขาดอุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัย ทำให้มีลูกจ้างสาวเคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุจนเป็นแผลน้ำร้อนลวกตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงขอเตือนไปยังโรงงานเถื่อนอื่นๆที่ยังแอบผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานให้เลิกผลิตเพราะสร้างความเสียหายกับสังคม"