ชีวิตล่าสุด หนุ่มสละไตแลกสมาร์ทโฟน จากเด็กวัยใส สู่ผู้ป่วยขั้นรุนแรง
ชีวิตล่าสุด หนุ่มสละไตแลกมือถือสมาร์ทโฟน จากเด็กหนุ่มวัยใส สู่ผู้ป่วยไตวายอย่างรุนแรง ล้มป่วยจนน้ำหนักเหลือเพียง 45 กก.
ชีวิตล่าสุด หนุ่มสละไตแลกสมาร์ทโฟน จากเด็กวัยใส สู่ผู้ป่วยขั้นรุนแรง : หลายคนอาจจะเคยพูดเล่นๆ ว่าจะขายนั่น ขายนี่เพื่อซื้อเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เพิ่งออกมา และ มือถือสมาร์ทโฟนก็คือหนึ่งในเป้าหมายของใครหลายๆ คนที่จะทำให้วัยรุ่นในวัยที่ยังไม่สามารถหาเงินได้ด้วยตนเองตัดสินใจแลกสิ่งที่มีค่าในร่างกาย เพื่อที่จะได้มันมา แต่เคสล่าสุดนี้อาจจะให้ดูเป็นอุทาหรณ์ว่า ต่อไปร่างกายเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เคสนี้เป็นของ หนุ่มชาวจีนรายหนึ่งวัย 17 ปี (ในขณะนั้น) ที่หลายคนอาจจะจำได้ว่า เขายอมสละขายไตไป 1 ข้าง เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของ โทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ในปี 2021 เนื่องจากเขาเกิดมาในเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย อีกทั้งย่านที่เขาอาศัยอยู่นั้น เป็นพื้นที่ที่ยากจนที่สุดในประเทศจีน ก่อนจะมีความคิดว่า "ไตเดียวก็เพียงพอแล้ว ทำไมต้องมีอีกไตด้วยล่ะ ทำไมไม่ขายเพื่อหาเงินล่ะ"
หลังจากการผ่าตัดสิ้นสุด หนุ่มชาวจีนรายดังกล่าวได้รับเงินเพียง 22,000 หยวน หรือ ประมาณ 1 แสนบาทเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ไต ของเขาถูกขายในราคา 220,000 หยวน หรือ มากกว่า 1 ล้านบาท แต่เขาก็ยังใช้เงินหมดไปอย่างรวดเร็วกับการซื้อโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตจากแบรนด์เดียวกัน กระทั่งเรื่องแดง ตำรวจจึงได้สืบสาวจนจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ 9 คน โดย 5 คน ถูกตั้งข้อหาจงใจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ และการค้าอวัยวะ
ทว่าหลังนั้นกลับพบว่า หนุ่มชาวจีนรายดังกล่าวได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของนายหวัง เนื่องจากการผ่าตัดใต้ดิน สุขอนามัยที่ไม่ดี และขาดการดูแลหลังการผ่าตัด ไตที่เหลืออยู่ของเขาจึงติดเชื้อด้วย ทำให้จากชายหนุ่มหน้าตาดี สูง 191 เซนติเมตร ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี กลับต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะไตวายอย่างรุนแรง ล้มป่วยจนน้ำหนักเหลือเพียง 45 กิโลกรัม เนื่องจากสุขภาพของแย่ลง
กระทั่งสุดท้ายต้องลาออกจากโรงเรียน และต้องได้รับการพึ่งพาการดูแลจากครอบครัว และต้องเข้ารับการฟอกไตเป็นประจำเพื่อยื้อชีวิตเอาไว้ เพราะไตที่เหลือไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่เพื่อนๆ วัยเดียวกันกำลังไล่ตามความฝันในวัยเยาว์ เขากลับต้องยึดติดอยู่กับเครื่องฟอกไต ยารักษาโรค และไปโรงพยาบาลบ่อยๆ เพราะสุขภาพไม่ดี
ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำงานและหาเลี้ยงชีพเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวได้เท่านั้น แต่ยังต้องพึ่งพาการดูแลของพ่อแม่ด้วย ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ "ขายไตซื้อมือถือ" ถูกแชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ชายหนุ่มก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาของทุกคน ตั้งแต่เพื่อนร่วมชั้น ไปจนถึงเพื่อนบ้าน ญาติ แม้แต่ญาติที่ไม่คุ้นเคยเลย ทุกครั้งที่มีการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ เรื่องราวของเขาก็จะถูกหยิบยกมากล่าวถึงซ้ำๆ การโจมตีจากสังคมทำให้เขาปิดใจ ไม่อยากออกไปพบปะคนอื่น สิ่งเดียวที่อยากทำคืออยู่บ้านเล่นเกมออนไลน์ แต่ไม่ว่าเขาจะซ่อนตัวมากแค่ไหน ก็ยังถูกพูดถึงอยู่ดี
เรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถกลับมาได้แล้วก็คือ ความสุขตอนที่ยังไม่ได้เสียไตไป ที่แม้ว่าครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็มีความสุขมาก อีกทั้งเขายังเรียนมัธยมต้น เขาเรียนได้ดีมาก ชอบประวัติศาสตร์และกีฬาเป็นพิเศษ เขากระตือรือร้นและร่าเริง ทำให้พ่อแม่ภูมิใจเสมอ แต่หลังจากที่เสียไตไป เขากลายเป็นคนที่มีแนวโน้มที่จะยอมแพ้กับตัวเอง และไม่สามารถหลีกหนีจากความหมกมุ่นในเหตุการณ์ขายไตในอดีตได้
ไม่เพียงแค่จิตใจของชายหนุ่มเอง แม้แต่ครอบครัวของเขาก็ยังคงรู้สึกเขินอายเมื่อออกไปข้างนอก บางครั้งไม่กล้าแม้แต่สบตาเพื่อนบ้านด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้ก็ต้องยอมรับว่า ความรับผิดชอบของพ่อแม่ก็มีส่วนไม่น้อย เพราะทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปในช่วงเรียนมัธยมปลาย ในเวลานั้น คะแนนของเขาลดลง และหมกมุ่นอยู่กับเกมต่างๆ และยังได้ติดต่อกับคนไม่ดีทางออนไลน์อีกด้วย
โดย พ่อและแม่ยอมรับว่าไม่ได้ใส่ใจลูกของตนอย่างเหมาะสมในขณะนั้น คู่ทำหน้าที่ชี้แนะและให้ความรู้ลูกได้ไม่ดีนัก รวมถึงการสื่อสารกับลูกน้อยเกินไป อีกทั้งในเวลานั้นทั้งคู่ยังมีความคาดหวังสูงเกินไปสำหรับลูกของพวกเขา ซึ่งทำให้ลูกชายกดดันอย่างมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ เป็นบทเรียนเตือนใจให้ใครหลายๆ คนมากจริงๆ
ข้อมูลจาก เวิลด์ออฟบัซ