ครูหนุ่มเบ้าหน้าฟ้าประทาน แถมดีกรีไม่ธรรมดา แต่ผู้ปกครองอยากพาลูกย้าย รร.

ครูหนุ่มเบ้าหน้าฟ้าประทาน แถมดีกรีไม่ธรรมดา แต่ผู้ปกครองอยากพาลูกย้าย รร. : ปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงมักจะเลือกทำอาชีพครูกันมาก ทำให้เดี๋ยวนี้โลกออนไลน์ต่างติดแฮชแท็ก #ครูหล่อบอกต่อด้วย กันเป็นว่าเล่นทำเอาสาวๆ อยากกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง แต่ผู้ปกครองที่มีลูกได้เรียนกับครูคนหล่อนี้อยากให้ลูกๆ ย้ายโรงเรียนหนี 

 

อย่างเคสล่าสุดเกิดขึ้นที่ กวางตุ้ง ประเทศจีน ที่ครูคนหนึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ เพราะหลายคนยกความหน้าตาดีของเขาเปรียบดัง "เทพเจ้า" ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาจึงกลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งโรงเรียนอย่างรวดเร็ว 

ทว่าเขายังต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อผู้ปกครองหลายคนขอให้ลูกๆ หลานๆ เปลี่ยนไปเรียนกับคุณครูคนอื่นแทน เพราะกลัวว่าจะเสียสมาธิในระหว่างบทเรียนของครูสุดหล่อ

 

ทั้งนี้ตามรายงานพบว่า คุณครูชายท่านนี้เกิดในปี ค.ศ.1995 ปัจจุบันอายุ 28 ปี และเป็นครูสอนวิจิตรศิลป์ระดับมัธยมศึกษา พร้อมกับการทำงานที่พิพิธภัณฑ์เซรามิกแห่งมณฑลเจียงซี และนอกจากสอนหนังสือแล้วยังเป็นนายแบบอิสระอีกด้วย ในเวลาว่างครูหนุ่มคนนี้ชอบถ่ายรูป และแชร์สไตล์เสื้อผ้าของเขาในบล็อกส่วนตัว
 

 

แต่เรื่องน่าปวดหัวที่เกิดขึ้นเพราะความหน้าตาดีของเขาก็คือ ผู้ปกครองบางคนแสดงความกังวลว่าลูกสาวจะให้ความสนใจกับรูปลักษณ์ของครูมากเกินไป จนละเลยการเรียนและไม่มีสมาธิในการฟังบรรยาย ผู้ปกครองคนอื่นๆ บางคนก็เห็นด้วยเช่นกันว่าต้องการให้นักเรียนมุ่งเน้นไปที่การซึมซับความรู้และศึกษาอย่างรอบคอบ โดยไม่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่นๆ

 

โดยคนส่วนใหญ่เชื่อว่ารูปลักษณ์ภายนอกไม่ใช่ประเด็นที่จะนำมาถกเถียงกัน เพราะคุณครูท่านนี้ได้รับการยอมรับว่ามีประสบการณ์การสอนที่ดี และมีความรู้ทางวิชาชีพที่ดีมากเช่นกัน แม้ว่าเขาจะยังอายุไม่มากเมื่อเทียบกับคุณครูท่านอื่นๆ แต่เขาก็เป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนอย่างมาก 

เนื่องจากเป็นคุณครูที่จริงจังและทุ่มเทกับการสอนหนังสือ ดังนั้น จะหล่อหรือไม่ก็ตาม พื้นฐานการสอนของเขาก็เพียงพอที่จะจูงใจนักเรียนได้แล้ว ถึงจะเป็นเรื่องดีที่พ่อแม่จะใส่ใจคุณครูของลูก แต่ก็ต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่าแทนที่จะขอให้คุณครูหยุดสอนเพราะหล่อเกินไป 

 

 

อย่างไรก็ตาม โรงเรียนและผู้ปกครองต้องให้ความรู้แก่นักเรียนให้เข้าใจว่า การเรียนเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในการไปโรงเรียน ถ้าครูลาออกจากการสอนเพราะหน้าตาดีเลิศ ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความวุ่นวายในห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังทำให้นักเรียนยอมรับมุมมองที่ผิดๆ อีกด้วยว่า "รูปลักษณ์สำคัญกว่าสิ่งใดๆ" อีกด้วย

 

ข้อมูลจาก kenh14.vn