สาวน้อยมาเลเซีย โดนเพื่อนแกล้งดึงเก้าอี้จนล้ม สุดท้ายเป็นคนป่วยติดเตียง
สาวน้อยมาเลเซีย มีเพื่อนนิสัยไม่ดี แกล้งดึงเก้าอี้จนล้มศีรษะกระแทกพื้น จากแข็งแรงต้องกลายเป็นคนป่วยติดเตียง
สาวน้อยมาเลเซีย โดนเพื่อนแกล้งดึงเก้าอี้จนล้ม สุดท้ายเป็นคนป่วยติดเตียง : เชื่อว่าในสมัยเรียนหลายๆ คนอาจจะเคยโดนเพื่อนแกล้ง หรือ ถ้าเป็นตัวจี๊ดหน่อยก็จะเป็นหัวหน้าแก๊งที่จะไปแกล้งเพื่อน ซึ่งถ้าเบาๆ ก็คงจะไม่อันตรายมาก แต่บางคนอาจจะเคยโดเพื่อนแกล้งดึงเก้าอี้ออกตอนที่เรากำลังจะนั่ง บางคนก็รู้ตัว แต่บางคนก็ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกับสาวน้อยคนนี้
สื่อต่างประเทศได้รายงานเรื่องราวของ เด็กหญิงมาเลเซียรายหนึ่ง ที่ต้องด้วยภาวะสมองพิการหลังถูกเพื่อนแกล้งดึงเก้าอี้จนล้มศีรษะกระแทกพื้น กระดูกสันหลังได้รับบาดเจ็บรุนแรง และทำให้เด็กหญิงที่ร่างกายแข็งแรงต้องกลายเป็นคนป่วยติดเตียง
โดยคุณแม่ของเธอได้โพสต์คลิปใน TIKTOK เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ระบุว่า ลูกสาวประสบเหตุเพราะเพื่อนกระชากเก้าอี้ ทุกคนควรจดจำถึงอันตรายจากการแกล้งกันเหมือนที่เรากำลังเผชิญหน้าและได้โปรดอธิษฐานให้ลูกสาวเธอฟื้นตัวโดยเร็วด้วย
เรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ซึ่งคลิปวิดีโอความยาว 20 วินาทีที่โพสต์เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ต.ค. มียอดเข้าชมแล้วกว่า 1.3 ล้านครั้งและมีคนแสดงความคิดเห็นหลายพันครั้ง
ต่อมาแม่ของเด็กหญิงโพสต์อีกคลิปที่แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่แพทย์เข็นลูกสาวออกจากห้องพักผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการสแกนด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก หรือ MRI ซึ่งผู้เป็นแม่โพสต์บอกว่าลูกสาวร้องไห้เพราะเจ็บปวดมาก ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลเพื่อทำกายภาพำบัด แต่แม่และพ่อจะทำให้ดีที่สุดเพื่อลูกสาวเพียงคนเดียว
ส่วนคลิปที่สามโพสต์เมื่อวันพุธที่ 18 ต.ค. เป็นภาพของลูกสาวนั่งบนรถเข็นด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น ผู้เป็นแม่เล่าว่า ลูกสาวมีอาการกระดูกก้นกบหัก และหมอนรองกระดูกหลุด ลูกสาวออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ต้องใช้หมอนรองเวลานั่ง และเวลาส่วนใหญ่ต้องนอนบนเตียง
แน่นอนว่าเรื่องราวดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นอย่างมาก เนื่องจากชาวเน็ตที่ได้เข้ามาดูเรื่องราวของสาวน้อยคนนี้ ต่างเคยโดนแกล้งในลักษณะเดียวกัน อย่างหญิงสาวรายหนึ่งบอกว่า เธอต้องทนทุกข์ทรมานมานาน 32 ปีเพราะเกิดเหตุร้ายลักษณะคล้ายกับกรณีของเด็กหญิง
"กระดูกสันหลังระดับเอว 5 ข้อยังคงเคลื่อนและเพิ่งฉีดสเตียรอยด์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่อาการปวดยังคงอยู่ และฉันสาบานต่อองค์อัลเลาะห์ว่าจะไม่ให้อภัยพวกเขา"
ข้อมูลจาก สเตรตส์ไทมส์