หมอเล่าประสบการณ์ 37 ปี เจอคนตายแล้วฟื้นเกือบ 5,000 เคส เชื่อโลกอีกฟากมีจริง
แพทย์ประจำบ้าน เล่าประสบการณ์ 37 ปี เจอเคสคนไข้เสียชีวิตแล้วฟื้นเกือบ 5,000 ครั้ง จนเชื่อ "โลกหลังความตายมีอยู่จริง"
หมอเล่าประสบการณ์ 37 ปี เจอคนตายแล้วฟื้นเกือบ 5,000 เคส เชื่อโลกอีกฟากมีจริง : คำถามที่มักจะเกิดขึ้นทุกครั้งหลังโลกแห่งความตายคือ "ตายแล้วไปไหน" ซึ่งนั่นยังเป็นปริศนาของมนุษย์ที่ไม่มีใครล่วงรู้คำตอบได้แน่ชัด นอกเสียจากผู้ที่เสียชีวิต แต่นั่นก็ยังไม่มีการพิสูจน์ได้ แต่ก็มีบางคนเชื่อว่า โลกหลังความตายมีอยู่จริง และหนึ่งในนั้นก็คือ เจฟฟรีย์ ลอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งและเนื้องอก จากรัฐเคนทักกี ในสหรัฐอเมริกา ผู้ที่มีประสบการณ์ศึกษากรณีเฉียดตายมาแล้วมากกว่า 5,000 เคส ในระยะเวลา 37 ปี เขาเชื่อว่า "ชีวิตหลังความตายมีแน่นอน"
ตามรายงานของ เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซนทรัล เผยว่า จุดเริ่มต้นคือตอนที่ ดร.เจฟฟรีย์ เป็นแพทย์ประจำบ้าน เขาได้เข้าห้องสมุดและกำลังศึกษาค้นคว้าหาวิธีการที่ดีที่สุดเพื่อรักษาโรคมะเร็งโดยใช้รังสี จนกระทั่งไปพบเคสที่น่าสนใจเคสหนึ่ง ซึ่งทำให้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยเข้าใจมาเสมอว่า มนุษย์มีอยู่ 2 แบบ คือ มีชีวิตหรือไม่ก็ตาย แต่มีแพทย์โรคหัวใจรายหนึ่ง ได้บรรยายถึงประสบการณ์อันเหลือเชื่อของผู้ป่วยที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
จากนั้น ดร.เจฟฟรีย์ ก็อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์เฉียดตาย ใกล้ความตายหรือ ที่เรียกว่า ประสบการณ์ตายแล้วฟื้น (NDE - Near Death Experience) และเขาก็หมกมุ่นอยู่กับสิ่งเหล่านั้นมาก จนหลังจากนั้นหลายปีต่อมา เขาก็ได้ก่อตั้งมูลนิธิวิจัยเกี่ยวกับประสบการณ์ตายแล้วฟื้นโดยเฉพาะ และตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้รวบรวมและศึกษาเกี่ยวกับเคสเช่นนี้มามากกว่า 5,000 เคส
"ฉันเป็นแพทย์ ฉันได้อ่านงานวิจัยเกี่ยวกับสมองและพิจารณาทุกคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับประสบการณ์ตายแล้วฟื้น ผลที่ปรากฏก็คือ ไม่มีทฤษฎีที่ถูกต้องสมบูรณ์ หรือแนวคิดที่สมเหตุสมผลที่สุด รวมทั้งหลักการที่พิสูจน์จับต้องได้เกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้" ดร.เจฟฟรีย์ กล่าว
พร้อมกันนี้ ตลอดกว่า 37 ปี ที่เขาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง แม้มันอาจจะฟังดูจำเจซ้ำซาก แต่เคสประสบการณ์ตายแล้วฟื้นล้วนมีความเชื่อมโยงกับสิ่งที่เหมือนกัน ได้แก่ แสงสว่าง อุโมงค์ และคนรัก และเขาก็เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง นอกจากนี้ เขายังศึกษาเด็กกลุ่มหนึ่งซึ่งมีอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งมีภาวะใกล้ความตาย พวกเขาล้วนเผชิญกับประสบการณ์ในรูปแบบเดียวกับที่ผู้ใหญ่เจอ
ในขณะเดียวกัน ก็มีรูปแบบบางอย่างที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ตายแล้วฟื้น มีประสบการณ์ "อยู่นอกร่างกาย" หรือที่เข้าใจกันว่าจิตออกจากร่าง ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า "เป็นจิตสำนึกของพวกเขา แยกออกจากร่างกาย และมักจะลอยอยู่เหนือร่างกายของพวกเขา"
ยกตัวอย่างเคสที่ค่อนข้างชัดเจน เป็นเคสของผู้หญิงคนหนึ่งหมดสติไปในขณะขี่ม้า แต่ในขณะที่ร่างกายของเธอนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นในเส้นทางขี่ม้า จิตสำนึกของเธอได้เดินทางกลับไปยังฟาร์มพร้อมกับม้า และในเวลาต่อมา หลังจากที่เธอฟื้นคืนชีพกลับมา เธอก็สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นที่ฟาร์มแห่งนั้นได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าร่างกายของเธอจะไม่ได้อยู่ที่นั่นก็ตาม และคนอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่น ก็ยืนยันว่าสิ่งที่เธอพูดตรงกับความเป็นจริง
"เมื่อเผชิญกับหลักฐานมากมาย ฉันเชื่อว่ามีชีวิตหลังความตายอย่างแน่นอน" ดร.เจฟฟรีย์ กล่าว พร้อมทั้งเสริมว่าการศึกษาเรื่องประสบการณ์ใกล้ความตายนี้ ส่งผลให้เขาเป็นแพทย์ที่มีความเห็นอกเห็นใจ และเปี่ยมไปด้วยความรักต่อเพื่อนมนุษย์มากขึ้น
ข้อมูลจาก อ็อดดิตี้เซนทรัล