ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี สั่งปลดฟ้าผ่า รัฐมนตรีกลาโหม ทำผิดร้ายแรง
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน สั่งปลดฟ้าผ่า รัฐมนตรีกลาโหม เซ่นเครื่องแบบราคาสูงเกินจริงถึง 3 เท่า
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี สั่งปลดฟ้าผ่า รัฐมนตรีกลาโหม ทำผิดร้ายแรง : มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้สั่งปลดโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหม หลังเผชิญข้อครหาว่าเขาลงนามซื้อเครื่องแบบทหารมูลค่าสูงเกินจริงถึง "3 เท่า" และเตรียมตั้งคนใหม่เข้ามาแทนที่แล้ว
ตามรายงานระบุว่า โอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครน ถูกประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี สั่งปลดฟ้าผ่า หลังถูกรุมเร้าด้วยข้อกล่าวหารับสินบน ขณะที่เซเลนสกีพยายามกอบกู้ชื่อเสียงด้วยการกวาดล้างการคอร์รัปชัน
แม้เรซนิคอฟ วัย 57 ปี จะได้ชื่อว่าเป็นผู้กุมบังเหียนกองทัพ ในช่วงที่กำลังทำสงครามเต็มรูปแบบที่ผ่านมานานกว่า 550 วันแล้ว แต่ก็เกิดข้อครหาว่าเขาลงนามในข้อตกลง ซื้อเครื่องแบบทหารที่ราคาสูงเกินจริงถึง 3 เท่า ซึ่งเซเลนสกีได้กล่าวระหว่างการแถลงต่อพลเมืองชาวยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ (3 กันยายน 2566) ว่าเขาได้ปลดเรซนิคอฟ และจะขอให้สภาผู้แทนราษฎรยืนยันการแทนที่โดย รัสเต็ม ยูเมรอฟ ผู้อำนวยการกองทุนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (privatisation fund) และเริ่มงานทันทีในสัปดาห์นี้
พร้อมกันนี้ เซเลนสกีกล่าวว่า "โอเล็กซี เรซนิคอฟ ได้ผ่านสงครามมายาวนานกว่า 550 วัน ผมเชื่อว่ากระทรวงต้องการแนวทางใหม่, รูปแบบปฏิสัมพันธ์อื่นๆ กับทั้งกองทัพและสังคมโดยรวม"
แม้ว่าเรซนิคอฟ ซึ่งรับผิดชอบกระทรวงกลาโหมตั้งแต่ก่อนที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน จะเป็นบุคคลสำคัญในความพยายามทำสงคราม แต่เขากลับถูกกล่าวหาว่ารับสินบนอย่างร้ายแรง ซึ่งเขายืนกรานปฏิเสธ แต่การลงนามกับบริษัทตุรกีในข้อตกลงซื้อเครื่องแบบทหารสำหรับสวมใส่ในฤดูหนาว ที่ราคาสูงเกินความจริงถึง 3 เท่า ทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธได้ เนื่องจากผู้สื่อข่าวหลายคนของยูเครนได้พิสูจน์ว่า เครื่องแบบทหารแบบเดียวกัน สามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่ามาก
ตอนที่เผชิญข้อกล่าวหา เรซนิคอฟบอกว่า "ผมขอให้ทุกคนเสพข้อกล่าวหาอย่างมีวิจารณญาณ และมีความรับผิดชอบกันมากขึ้น เพราะมันทำให้สังคมเข้าใจผิด ที่ยิ่งเลวร้ายกว่านั้นมันทำให้หุ้นส่วนของเราเข้าใจผิด และเมื่อมองจากภายนอกบอกได้เลยว่ามันเป็นหายนะ"
นอกจากเรื่องเครื่องแบบแล้ว เรซนิคอฟยังถูกสอบสวนเรื่องสินบนที่ประเด็นระดับสูงอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งกระทรวงกลาโหมถูกกล่าวหาว่า ลงนามในสัญญาด้านอาหารและการจัดเลี้ยงมูลค่า 13,000 ล้านฮริฟเนีย (12,300 ล้านบาท) ซึ่งสูงเกินจริงไปมากเช่นกัน และแม้เรซนิคอฟจะไม่ได้ลงนามในสัญญาฉบับนี้ แต่เขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้
และเซเลนสกีก็ไม่อาจปล่อยผ่าน และต้องทำตามนโยบายความอดทนเป็นศูนย์ต่อการคอร์รัปชัน (zero-tolerance policy on corruption) ซึ่งมีที่ผ่านมาเซเลนสกีต้องตามล้างตามเช็ดการทุจริต ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมแม้แต่ประธานศาลฎีกาก็ถูกจับในข้อหารับสินบนเช่นกัน