เปิดใจครั้งแรกหลังเข้าพบตำรวจ สำหรับนางเอกหนังร้อยล้าน ไอซ์ ปรีชญา กรณีดราม่าซื้อไซยาไนด์ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ ลั่นเตรียมฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด หลังพาดพิงการเสียชีวิตของอดีตผู้จัดการส่วนตัว พร้อมควงแฟนหนุ่มลูกครึ่ง สเตฟาน อิสเลอร์ เผยเส้นทางความรักกว่า 1 ปี ในรายการคุยแซ่บshow ทางช่องวัน 31
ตอนนี้สภาพจิตใจ?
ไอซ์ : เริ่มดีขึ้นค่ะ แต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ลึกๆยังแย่อยู่ (ร้องไห้ทุกวันจนเส้นเลือดใต้ตาแตก) ค่ะ
สเตฟาน : เมื่อเช้าเค้ายังร้องไห้ ทุกคนแย่หมด เพราะกระทบทั้งครอบครัว ทุกคนสงสารเค้าเพราะเค้าโดนเต็มๆ ทั้งครอบครัวให้กำลังใจเค้าเต็มที่เพื่อให้ผ่านวันนี้ไปได้
เมื่อวานพบ รอง ผบ.ตร. ท่านว่ายังไงบ้าง?
ไอซ์ : ท่านก็รับฟังค่ะ เมื่อวานไปในฐานะพยานไม่ใช่ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย ชี้แจงเรื่องจุดประสงค์ ท่านรับฟังและให้ความเป็นธรรม
รูปคดีจะออกยังไง?
ไอซ์ : ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีความผิดอะไร ท่านกำลังโฟกัสอีก 100 คน (ที่สั่งซื้อ) และกรมอุตสาหกรรมเรื่องการปล่อยขายที่กำลังจะจัดการต่อ
มีข่าวเยอะ แต่บางทีคนไม่ได้ดูทุกข่าว ทำให้ยังเข้าใจผิดอยู่ อยากบอกอะไร?
ไอซ์ : ชี้แจงไปกับนักข่าวด้วย สืบสวนสอบสวนด้วย ในเรื่องการที่โยงไปเกี่ยวกับอดีตผู้จัดการเก่า ไม่ควรโยง การที่ผู้จัดการเสีย หนูก็เสียใจ ไม่ควรโยงเรื่องที่เป็นคดีอยู่ตอนนี้เพราะหนูไม่ได้เกี่ยวข้อง มันมีเพจอันหนึ่งขึ้นมาว่า ใช้ตัวอักษาว่า อ. กับผู้จัดการเก่าที่เสียชีวิตไปแล้ว คู่กัน ให้วิเคราะห์ดูว่าเสียชีวิตในช่วงไหน เหมือนชี้นำว่าหนูเกี่ยวข้องหรือเปล่า มันกลายเป็นเรื่องอะไรก็ไม่รู้ หนูอยากให้โฟกัสที่หนูทำอะไรผิดหรือเปล่า ถ้าหนูไม่ได้ผิดจริงๆก็มูฟออน หนูชี้แจงไปค่อนข้างเยอะแล้ว คนที่ยังเข้าใจผิดก็ไม่มีอะไรอธิบายเพราะเราก็บริสุทธิ์ใจ แต่ถ้ายังมีคอมเมนต์ที่โจมตีอยู่ในเรื่องหมิ่นประมาทหรืออะไรก็ตาม หนูมีการคุยกับครอบครัว อาจมีการดำเนินคดีต่อค่ะ
คอมเมนต์อันไหนแรง?
ไอซ์ : เยอะมากเลยค่ะ คอมเมนต์ในข่าว ในเพจมากกว่าค่ะ
ถ้าดำเนินคดี กลัวมั้ยว่าคอมเมนต์จะแรงเข้าไปอีก?
สเตฟาน : ถ้าเราไม่ออกมาพูดอะไรเลย เค้าจะทำแบบนี้กับคนๆอื่น มันจะไม่จบสักที ไอซ์อยู่ในวงการค่อนข้างนานแล้ว เค้าโดนแบบนี้มาตลอด เค้าเป็นผู้หญิงคิดดีตลอด เค้าไม่โต้ตอบ เค้าโดนกระทำจนถึงทุกวันนี้ ผมคิดว่ามันไม่แฟร์แล้ว เราอย่าให้เค้ามารังแกเราอีกเลย เราต้องหยุดคนเหล่านี้ ผมเห็นแฟนผมเสียน้ำตาเยอะ
โยงไปถึงเรื่องญาติผู้จัดการที่ออกมาพูดเรื่องงานศพ?
ไอซ์ : คุยกันเรียบร้อยแล้วค่ะ คุณแม่เคลียร์เรียบร้อยแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่พี่โก้เสียคลาดเคลื่อนในข้อมูลที่คุณแม่พูดไป ไม่ได้มีปัญหากันค่ะ
โพสต์ยาวปกป้องไอซ์?
สเตฟาน : ผมรักแฟน เค้าไม่ควรโดนรังแก เค้าเป็นผู้หญิงธรรมดา ผมอยู่ในเหตุการร์ทุกเหตุการณ์ เอาเข้าไปโยงมั่วไปหมด ผมอ่านคอมเมนต์เยอะมาก ถ้าผมอยู่เฉยๆผมคงไม่ใช่แฟน เพราะแฟนเราไม่ได้ทำอะไรผิด ผมต้องออกมาชี้แจงตรงนี้ เพราะเรารู้ความจริง ผมเอาชีวิตผมเป็นประกันต่อให้ผมพูดยังไงเค้าไม่เชื่อ ถ้าพูดก็บอกว่าร้อนตัว ถ้าไม่พูดก็บอกว่าหนี ผมทำอะไรให้ถูกใจพวกคุณไม่ได้หรอกครับ
พอออกมาพูดมี 2 มุม?
สเตฟาน : ถ้าคุณมีหลักฐานแฟนผมผิดจริงเอามาเลยครับ เอาแค่ความจริงมาพูดกันเลยครับ
รู้สึกยังไงบ้าง?
ไอซ์ : บางทีเค้าทำอะไรก็ไม่ได้ปรึกษาเรา เค้าเป็นผู้ชายที่ปกป้องเราที่สุดในชีวิตหนูแล้ว เค้าเป็นคนที่กล้าทำอะไรในบางคนที่ไม่กล้าทำ เค้าจริงใจและชัดเจนกับหนูตลอด
โดนตลอดเรื่องศัลยกรรม?
ไอซ์ : ตอนนี้หนูเป็นเรื่องขำแล้ว เพราะโดนมาตลอดเรื่องนี้ หลายปีแล้วด้วย โดนบ่อยจนหนูชิน ตอนแรกโดนจาก น่าจะจมูก ก็ไล่มาเรื่อยๆ หน้าเปลี่ยนทุกไตรมาส หน้าเก่าสวยกว่า เสียดายหน้าเก่า หนูก็เสียดายค่ะ เพราะว่าหนูก็ไม่อยากจะเสียตังค์ทำหน้าใหม่ ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุหนูก็ไม่ได้ทำ
สเตฟาน : ผมพอใจ ผมชอบ สำหรับผมสวย เค้าเป็นคนที่จิตใจดีมาก เค้ามีอะไรดีเยอะ ไม่ได้อวยแฟนนะ
เราจะบอกคนที่บูลลี่เรายังไง?
ไอซ์ : ถ้าบูลลี่ในเรื่องหน้าตา มันเป็นเรื่องที่เข้าใจ แต่อยากให้โฟกัสในเรื่องการทำงานมากกว่า ถ้าผลงานการแสดงไม่ดีหนูน้อมรับคำติชมทุกอย่าง ถ้าเป็นเรื่องของหน้าและรูปลักษณ์ ถ้าหนูไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน และไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิด หนูก็รู้สึกว่าไม่เป็นอะไรที่เราจะทำกับหน้าเรา ไม่ว่าศัลยกรรมหรืออะไรมันเป็นเรื่องธรรมดาซะด้วยซ้ำเดี๋ยวนี้ ทุกคนก็อยากสวย ทำออกมาไม่ดีไม่ได้ถูกใจทุกคนแล้วคนมาซ้ำๆไม่สวยๆ เราเสียตังค์ให้หมอแล้วเราต้องเสียใจกับคำพูดที่โดนว่าอีกเหรอ แค่หน้าเราไม่ถูกใจเค้า หน้าหนูแพงเราเลยต้องเก็บหน้านี้ไว้
คบกันมานานหรือยัง?
สเตฟาน : เดือนหน้าครบ 1 ปี
เจอกันยังไง?
ไอซ์ : เจอกันครั้งแรกที่คอมมิวนิตี้มอลล์ เค้ามากับน้องหมา เค้าบอกเราเคยเจอกันนะ คุณเคยมาเล่นกับหมาผมนะ หนูก็ถามเค้าต่อ พอคุยกับเค้าเยอะขึ้น มันเป็นคำถามที่เราต้องตอบกลับ ตอนเจอบังเอิญ เค้ามากับแฟนเก่า หนูถามเค้าว่าหมาน่ารักจังเลยชื่ออะไรค่ะ เค้าบอกไม่รู้ สักพักผู้หญิงเดินมาแฟนนิ พอเค้าบอกชื่อเสร็จก็แยกย้ายแค่นั้น
สเตฟาน : ผู้หญิงคนนั้นวันนั้นเรายังคุยกันอยู่ยังไม่ได้คบ ที่ไม่รู้ชื่อน้องหมาเพราะเราคุยกันช่วงแรกๆ หลังจากนั้นเราก็ได้คบกัน พอเราเลิกกันผ่านไปนาน ผมก็เล่นไอจีเห็นไอซ์คนนี้เคยมาคุยกับเราทักไปดีกว่า เอาจริงๆชอบเค้าอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเค้าตอบมั้ย แต่ก็ทักไปก่อน ผมก็มีเล่ห์เหลี่ยมของผมนิดนึง ผมทักไปเค้าตอบมานิดเดียวก็หายไปเลย ต่างคนต่างหาย แล้วเค้าก็ส่งรูปมาตอนที่เค้าอยู่โรงพยาบาล ผมก็ถามเค้าเป็นอะไรให้ส่งอะไรไปให้มั้ย เพราะตัวผมอยู่เมืองนอกในตอนนั้น
ไอซ์ : ตอนส่งรูปเราก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมส่งให้เค้า แต่เราส่งให้เพื่อนหนูทุกคนเลยนะ ตอนนั้นมันเป็นภาวะหนูโสด ก็เลยคุยต่อลองดูว่าเค้าเป็นยังไง เพราะคนนี้น่าสนใจดี
ตอนที่ถามเค้าว่าให้ไปหามั้ยเค้าตอบว่าไง?
สเตฟาน : เค้าบอกว่าไม่ต้องมา ผมเลยบอกว่าอาทิตย์หน้าเจอกัน ผมทำงานอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ผมก็ลางานเลย พอได้เริ่มคุยโทรศัพท์กันเราคุยกันเยอะมาก ประมาณ 12 ชั่วโมงต่อวัน แต่ยังไม่ได้เจอหน้ากัน ผมบอกตั้งแต่แรก ถ้าจะให้เป็นเพื่อนไม่ขอเป็นไม่ขอคุย
ตั้งแต่กลับมายังไม่กลับสวิสเลย?
สเตฟาน : กลับครับ กลับ 3 วันแล้วก็มาอีก งานที่โน่นผมก็ทิ้งไปเลยครับ เพราะมีงานที่นี่ด้วย ทางโน้นก็เดินต่อได้ ผมเป็นดีเจเป็นศิลปิน ที่โน่นก็มีหุ้นส่วน
เจอกันครั้งแรก?
ไอซ์ : ครั้งแรกที่เจอคือสักเยอะจังเลยนะ ดูโหดนะ พอคุยเค้าเป็นคนที่อ่อนโยน จิตใจดี น่ารัก ขัดกับรอยสักมาก
ทำไมไม่กลับ ทิ้งงานด้วย เพราะอะไร?
สเตฟาน : ผมมีความสุขครับ ผมมีความสุขที่นี่ ทั้งประเทศไทย มันต่างกับที่โน่น นิสัยคนไทยดี ผมไปมาหลายประเทศ เพราะคนไทยใจดี กับไอซ์ปรับตัวกันเยอะเพราะความคิดเราต่าง เราเข้าใจกัน เราเดินเข้าหากัน ทุกอย่างก็ไปได้ดีครับ
เรื่องแต่งงาน?
ไอซ์ : หนูรอเค้าขอแล้วกันค่ะ
สเตฟาน : ผมไม่ได้ติดอะไร วันข้างหน้าไม่แน่ ผมอยากมั่นคงถ้าทุกอย่างพร้อมก็ไม่น่ามีปัญหา คุณพ่อคุณแม่รับรู้ครับ
ไอซ์ : คุณแม่เจอครั้งแรกตกใจเหมือนกัน เหมือนที่หนูตกใจ เค้าสักเยอะจังเลยลูก พอได้รู้จักเค้ามากขึ้น คุณแม่รักเค้ามาก