เตรียมพร้อม ยืนยันตัวตนบัตรคนจนผ่าน ต้องลงทะเบียนใหม่ รับสิทธิค่าน้ำ ค่าไฟ
เตรียมลงทะเบียนรับสิทธิบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ซึ่ง คนที่ยืนยันตัวตนผ่านต้องลงทะเบียนใหม่ 15 มีนาคม 2566 นี้
เตรียมพร้อม 15 มี.ค. ยืนยันตัวตนบัตรคนจนผ่าน ต้องลงทะเบียนใหม่ รับสิทธิค่าน้ำ - ค่าไฟ : บัตรคนจน หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 จะพามาเช็ค บัตรประชารัฐ เดือนเมษายน ที่จะได้เงินอะไรบ้าง หลังจาก กระทรวงการคลัง เปิดให้ผู้ผ่านคุณสมบัติลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบแรกจำนวน 13.59 ล้านคน จากจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 20 ล้านคน ตรวจสอบสิทธิ์ผ่านทางเว็บไซต์ และ หน่วยงานลงทะเบียนทั่วประเทศ
โดย กระทรวงการคลัง ได้รายงานผลการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนที่ยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. มีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 2,742,919 ราย
สำหรับประชาชนที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ เริ่มใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ผ่านบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดซึ่งจะต้องผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน โดยเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป
โดย กระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 66 ได้สิทธิ ดังต่อไปนี้
- วงเงินค่าซื้อสินค้า 300 บาทต่อเดือน
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงตุ้ม จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
- วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ,รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ,รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด , รถไฟ , รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ,รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน , รถสองแถวรับจ้างม และ (เรือโดยสารสาธารณะ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ
- เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีบัตรฯ) ที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
- เงินชดเชยค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธิ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
ทั้งนี้ ผู้ที่ยืนยันตัวตนผ่านแล้ว จะได้รับสิทธิบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา และคนที่ยืนยันตัวตนผ่าน ต้องลงทะเบียนใหม่ทั้งหมดเพื่อรับสิทธิค่าน้ำค่าไฟ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 นี้ เป็นต้นไป รายละเอียดมีดังนี้
การลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้า
1. การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง
- เว็บไซต์ คลิก
- หมายเลขโทรศัพท์ 1130
2. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
- เว็บไซต์ คลิก
- หมายเลขโทรศัพท์ 1129
3. กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ
- เว็บไซต์ คลิก
- หมายเลขโทรศัพท์ 086-848-1284
ทั้งนี้ ถ้าลงทะเบียนกับการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับกิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรกคือ ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566
การลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปา
1. การประปานครหลวง (กปน.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานการประปานครหลวง
- เว็บไซต์ คลิก
- หมายเลขโทรศัพท์ 1125
2. การประภาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สามารถลงทะเบียนได้ที่
- สำนักงานการประภาส่วนภูมิภาค
- เว็บไซต์ คลิก
- หมายเลขโทรศัพท์ 1662
โดย ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจะเปิดให้ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ได้อีกครั้งในวันที่ 15 มีนาคม 66 ทั้งนี้ ถ้าลงทะเบียนกับการประปานครหลวงหรือการประปาส่วนภูมิภาคสำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
1. ค่าไฟฟ้า
- ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรี ตามโครงสร้างค่าไฟฟ้า
- ผู้ใช้ไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้าวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ภายใต้มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้มีบัตรฯ
- ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
2. ค่าน้ำประปา
- กรณีใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาท จะได้รับการสนับสนุนค่าน้ำประปาตามจำนวนที่ใช้จริง
- กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
- หากมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท และต้องชำระค่าน้ำประปาเต็มทั้งจำนวนด้วยตนเอง