หนุ่มสงสัยนั่งแท็กซี่ 7 กม. แต่ค่าโดยสารเกือบ 36 กม. ก่อนมีคนมาเฉลยความจริง
หนุ่มนั่งแท็กซี่แค่ 7 กม. แต่ค่าโดยสารเกือบเท่ากับ 36 กม. นึกว่าโดนโกงเข้าให้แล้ว สุดท้ายมีคนมากระจ่างเฉลยความจริงทั้งหมด
อีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้รับความสนใจอย่างมาก หละงหนุ่มรายหนึ่ง ที่ได้ตั้งข้อสังเกตหลังจากที่ เขานั่งแท็กซี่ระยะทางใกล้ เทียบกับระยะทางไกล แต่กลับกลายเป็นว่าค่าแท็กซี่แทบไม่ต่างกัน จนเข้าใจไปว่าโดนโกงมิเตอร์ ก่อนที่จะมีคนเฉลยตามมา ว่าคิดค่าแท็กซี่แบบนี้คือถูกแล้ว โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kan Kanpong Boonthaworn ได้ระบุว่า
เจ้าตัวนั้นจะเดินทางไปที่ประเทศเวียดนาม ขาไป จากที่ตนนั่งแท็กซี่จากคอนโดในย่านปิ่นเกล้าไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นระยะทาง 36 กม. ค่าแท็กซี่ 289 บาท
และเมื่อกลับมาถึงไทย ตนนั่งแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มาลงที่บีทีเอสพญาไท และเดินมาขึ้นแท็กซี่ที่โรงเรียนสันติราษฎร์กลับคอนโดในย่านปิ่นเกล้า ระยะทาง 7.6 กม. แต่ค่าแท็กซี่กลับสูงถึง 219 บาท แทบจะไม่ต่างกับค่าแท็กซี่ไปสุวรรณภูมิทั้งที่อันนั้นระยะทางไกลกว่า นึกว่าเจอความอะเมซิ่งเข้าให้แล้ว
ทำเอาหลายคนก็ตกใจจนเกือบจะกลายเป็นดราม่าโกงมิเตอร์ โกงค่าแท็กซี่ ใกล้นิดเดียวแต่ราคาขึ้นพรวดๆ จนมีคนเข้ามาแย้งและเฉลยความจริงให้เข้าใจ ว่ามันไม่ใช่เรื่องของการโกง แต่เป็นการคิดอัตราแท็กซี่ใหม่ จนเจ้าของโพสต์ได้แก้ไขความเข้าใจว่า ระหว่างทางที่นั่งจากพญาไทมาปิ่นเกล้า พบว่ารถค่อนข้างติด และมิเตอร์ก็แท็กซี่ขึ้นพรวดๆ
เขาขึงลองพิมพ์ค่าโดยสารลงในไลน์ เพื่อให้รู้เวลาและจะได้เห็นอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าโดยสาร ซึ่งระหว่างนั้นพอเห็นมิเตอร์ขึ้นเอาๆ ก็ช็อก เพราะมิเตอร์ขึ้นเร็วกว่าที่คิด เมื่อลงมาจากแท็กซี่ ตนเลยเอาราคาขากลับมาเทียบกับขาไป และพบว่าราคาต่างไม่มาก จากระยะทางที่ห่างกันระหว่าง 36 กม. และ 7.9 กม.
แต่ในความเป็นจริงนั้น มีเรื่องของระยะเวลาเข้ามาด้วย ตอนขาไปใช้เวลา 36 นาที ขากลับใช้เวลา 65 นาที และด้วยความไม่เข้าใจในเรื่องการคำนวณค่าแท็กซี่ในอัตราใหม่ จึงโพสต์ลงไป จนกระทั่งมีคนเข้ามาอธิบาย จึงได้ไล่อ่านและโพสต์เพื่อปรับความเข้าใจอีกรอบ สุดท้าย เรื่องแท็กซี่ที่มิเตอร์ขึ้นเอาๆ ในเคสนี้ สรุปได้ว่า
แท็กซี่ไม่ได้โกง แต่คิดอัตราค่าโดยสารใหม่ โดยที่อัตราใหม่นั้น เวลาที่รถติดจะคิดตามเวลา นาทีละ 3 บาท ซึ่งที่ตนเจอคือขึ้น 2 บาททุก 40 วินาที และการที่รถติดอยู่เฉยๆ ทำไมถึงราคาแพง เพราะ ระหว่างจอดเครื่องยนต์และแอร์ยังคงทำงาน, เวลาจอดจริงๆ เครื่องยนต์ใช้แก๊สมากกว่าที่คิด, ค่าแก๊สในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 120% จึงจำเป็นต้องขึ้นค่าโดยสาร
พร้อมกันนี้ยังมีคนแนะนำว่า ให้วางแผนค่าโดยสาร เพราะนั่งแท็กซี่ถ้านั่งบางช่วงเวลาจะไม่แพงเลย หากรถติดแนะนำให้ใช้บริการอย่างอื่น ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า วินมอเตอร์ไซค์ หรือใครไม่อยากลุ้นค่าโดยสาร ให้เรียกรถผ่านแอปฯ ต่างๆ อาจจะสะดวกกว่ามาก
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews