ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ "ผ่าน-ไม่ผ่าน" รีบแก้ก่อนหมดเขต
ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ "ผ่าน-ไม่ผ่าน" รีบแก้ก่อนหมดเขต อัปเดตล่าสุด มีแค่ 2 อย่างนี้ เช็กผลได้ที่นี่!
ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ "ผ่าน-ไม่ผ่าน" รีบแก้ก่อนหมดเขต
อัปเดตล่าสุด มีแค่ 2 อย่างนี้ เช็กผลได้ที่นี่! นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565 มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ทั้งสิ้น 22,294,282 ราย เป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,693,353 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 12,600,929 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เวลา 12.00 น.)
จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
- นครราชสีมา
- อุบลราชธานี
- กรุงเทพมหานคร
- ขอนแก่น
- ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ พบว่าสัดส่วนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เป็นเพศหญิงร้อยละ 55.15 เพศชายร้อยละ 44.85 และส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 36 – 69 ปี คิดเป็นร้อยละ 62.78 ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมด ซึ่งจำนวนผู้ลงทะเบียนข้างต้นเป็นเพียงจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น โดยการเป็นผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ อีกครั้งหนึ่ง
ขั้นตอน ตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ "ผ่าน-ไม่ผ่าน" ดังนี้
เข้าไปที่เว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คลิกที่นี่
จากนั้นคลิก "ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน"
กรอกหมายเลขบัตรประชาชน และวันเดือนปีเกิด จากนั้นคลิก "ตรวจสอบข้อมูล"
ระบบจะ แสดงสถานะการลงทะเบียน ของผู้ลงทะเบียน
ต้องผ่านการตรวจสอบทั้งรายบุคคล และสมาชิกในครอบครัว
ขั้นตอนแรกจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ (เกณฑ์บุคคล) หากผู้ลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์บุคคลโดยมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของเกณฑ์ครอบครัว (ในกรณีที่มีคู่สมรสหรือบุตร) ซึ่งหากพบว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ครอบครัวจะถือว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านคุณสมบัติและผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ
ประกาศผล “สถานะการลงทะเบียน” บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
โดยเป็นข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 5 กันยายน – 27 ตุลาคม 2565 อัปเดตเมื่อวันที่ 4 พ.ย.65 พบว่า ผู้ที่ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” มีจำนวนทั้งสิ้น 20,708,258 ราย
กรณี “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” ผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ในช่วงนี้ โดยขอให้รอผลการตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง ซึ่งจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนในช่วงเดือนมกราคม 2566
กรณี “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลของกรมการปกครองมีจำนวนทั้งสิ้น 1,546,004 ราย (คิดเป็นร้อยละ 7.47 ของผู้ที่ลงทะเบียนที่กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว)
ระบบจะขึ้นข้อความแสดงโดยระบุสาเหตุของการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ดังนี้
ผู้ลงทะเบียนเป็นพระภิกษุ/สามเณร/แม่ชี
ไม่พบข้อมูลของผู้ลงทะเบียน
สถานภาพบุคคลของผู้ลงทะเบียนไม่ถูกต้อง มีสถานะเสียชีวิต หรือย้ายไปต่างประเทศ หรือจำหน่าย
ผู้ลงทะเบียนไม่ได้มีสัญชาติไทย
ผู้ลงทะเบียนมีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือรูปแบบวันเดือนปีเกิดไม่ถูกต้อง
ผู้ลงทะเบียนมีคู่สมรส
ผู้ลงทะเบียนแจ้งข้อมูลคู่สมรสไม่ถูกต้อง
ผู้ลงทะเบียนแจ้งจำนวนบุตรครบถ้วน แต่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของบุตรไม่ถูกต้อง
ผู้ลงทะเบียนแจ้งจำนวนบุตรไม่ครบถ้วน โปรดตรวจสอบจำนวนบุตรและข้อมูลเลขบัตรประชาชนของบุตรทุกราย
แก้ไขข้อมูลภายในวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2565
ผู้ลงทะเบียนที่มี “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขต หากพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้องขอให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง หรือหากพบว่าข้อมูลที่ลงทะเบียนไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เช่น จำนวนบุตรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีจำนวนมากกว่าข้อมูลบุตรที่ลงทะเบียนไว้ เป็นต้น ให้ติดต่อแก้ไข
โดยหากเป็นผู้ที่ลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนจะต้องติดต่อขอแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้แล้วเท่านั้น และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ โดยจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2565
สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 094-858-9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือ โทร. 08-5842-7102 , 08-5842-7103, 08-5842-7104 ,08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)
ที่มา : กระทรวงการคลัง