"ทนายรัชพล" เผยข้อกฎหมายปม "หลวงปู่แสง" อนาจารจริงหรือเท็จ ต้องไปถามหมอ
"ทนายรัชพล" เผยข้อกฎหมายปม "หลวงปู่แสง" อนาจารจริงหรือเท็จ ต้องไปถามหมอ ชี้ การตรวจสอบเป็นเรื่องดี แต่ข้อเท็จจริงต้องชัดเจนก่อน
กำลังเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนจับตามอง จากกรณีที่ "หมอปลา มือปราบสัมภเวสี" บุกเข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์พื้นที่บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก จ.ยโสธร จากที่มีหญิงสาวรายหนึ่งกล่าวหา "หลวงปู่แสง ญาณวโร" มีพฤติกรรมลวนลามสีกา แต่ก็เกิดกระแสตีกลับวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของหมอปลา ภรรยา และสื่อมวลชน จนเกิดเป็นแฮชแท็ก #SAVEหลวงปู่แสง เพราะหลวงปู่แสงนั้นมีอายุมากแล้ว และมีอาการป่วยอัลไซเมอร์
ทางด้าน "ทนายรัชพล ศิริสาคร" ทนายความชื่อดังก็ได้เผยข้อกฎหมายถึงประเด็นดังกล่าวระบุว่า เรื่องหลวงปู่แสง อนาจารจริงหรือเท็จ ต้องไปถามหมอ
กรณีหลวงปู่แสง ต้องโทษใคร? ตามกฎหมายแล้ว หากหลวงปู่ป่วยจนไม่สามารถจัดการตัวเองได้ ก็อาจจะต้องมีการตั้งผู้ดูแลหรือผู้อนุบาลเข้ามาดูแล ถ้าไม่มีการตั้งผู้ดูแล ในทางปฏิบัติ ลูกศิษย์หรือใครก็ตามที่ดูแลอยู่ ก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิดให้อยู่ในความเหมาะสม และควรต้องรับผิดชอบดูแลไม่ให้ผู้หญิงเข้าไปใกล้ เชื่อว่าหลวงปู่คงวิ่งไปอนาจารเองไม่ได้อยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่บอกว่าหลวงปู่ไปอนาจาร มองแบบเป็นกลาง ต้องดูว่าต้นเหตุมาจากไหน ถ้าหลวงปู่ยังมีสติ และมีเจตนาบงการให้คนดูแลพาผู้หญิงมาใกล้ๆ ก็ต้องไปถามหลวงปู่ละว่าทำเพื่ออะไร
แต่ถ้าหลวงปู่ป่วย ขาดสติ มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่สามารถรู้ชั่วดีได้ (เช่นอาการเหมือนเด็ก2 ขวบ จะไปรู้ดีรู้ชั่วได้อย่างไร) ในทางกฎหมายถือว่าไม่มีเจตนา ย่อมไม่มีความผิด
จริงเรื่องนี้มันป้องกันไม่ยาก แค่ไม่ต้องพาผู้หญิงไปใกล้ๆ หลวงปู่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าคนดูแลเป็นคนพาผู้หญิงมาใกล้ๆ เองก็ต้องถามว่า คนดูแลมีเจตนาอย่างไร
การตรวจสอบเป็นเรื่องดี แต่ข้อเท็จจริงต้องชัดเจนก่อน ตกลงแล้ว หลวงปู่เจตนากระทำเรื่องแบบนั้นหรือไม่? คงต้องดูที่เจตนา ซึ่งเรื่องนี้แพทย์น่าจะเป็นคนที่ตอบคำถามได้ชัดเจนกว่าใคร..
ทนายรัชพล ศิริสาคร
ปรึกษาคดี inbox หรือ โทร/ไลน์ 0957563521 (มีค่าใช้จ่าย)
#หลวงปู่แสง