สังคม

heading

ย้อนรอย เหตุสลดครบรอบ 2 ปี "จ่าคลั่ง" กราดยิงโคราช

ย้อนรอย เหตุสลดครบรอบ 2 ปี "จ่าคลั่ง" กราดยิงโคราช

ครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์สลด "จ่าคลั่ง" กราดยิงโคราช เมื่อ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 และล่าสุดเกิดการตั้งคำถามปฎิรูปกองทัพไปถึงไหน? 

เป็นเหตุการณ์ที่ฝังใจคนไทยไม่มีวันลืม สำหรับเหตุการณ์ กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2563 เป็นเหตุกราดยิงในจังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ซึ่งจ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา ใช้ปืนยิงผู้บังคับบัญชาและญาติถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีเข้ามาในตัวเมือง กราดยิงผู้คนตามรายทาง ก่อนเข้าไปซ่อนตัวหลบอยู่ในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จับบุคคลในห้างเป็นตัวประกัน 


และถ่ายทอดสดตนเองขณะก่อเหตุลงเฟซบุ๊กของตน จนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมในเช้าวันถัดมา สรุปมีผู้เสียชีวิต 31 คน บาดเจ็บ 58 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 32 คนเหตุกราดยิงนี้ถือว่าเป็นเหตุกราดยิงที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งในเวลาต่อมานั้นต่อมาวันที่ 22 สิงหาคม นาย อุทัย ขันอาสา เสียชีวิตลงเป็นรายที่ 31

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading

ย้อนรอย เหตุสลดครบรอบ 2 ปี จ่าคลั่ง กราดยิงโคราช สัญญาปฎิรูปกองทัพไปถึงไหน

สำหรับเหตุการณ์ในวันนั้นเริ่มขึ้น เวลาประมาณ 15:30 น. 8 กุมภาพันธ์ 2563 จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ใช้ปืนยิงผู้บังคับบัญชา คือ พันเอก อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ อายุ 48 ปี ผู้บังคับกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 และนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี แม่ยายของพันเอก อนันต์ฐโรจน์ ถึงแก่ความตายที่บ้านพักในตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ขณะที่นายหน้าวิ่งหนีไป จึงถูกไล่ยิงเข้าข้างหลังแต่ไม่เสียชีวิต

จากนั้น จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ไปชิงอาวุธสงครามออกมาจากคลังอาวุธกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ตำบลไชยมงคล โดยยิงทหารเวรกองรักษาการณ์ และทหารดูแลคลังอาวุธ มีพลทหารบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิตอีก 1 นาย ต่อมา จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ขับรถฮัมวีหลบหนีออกไปทางด้านหลังค่าย มุ่งไปทางวัดป่าศรัทธารวม ตำบลหัวทะเล เพราะทราบว่าภรรยาของผู้บังคับบัญชาออกไปทำบุญที่วัดป่าศรัทธารวม ได้กราดยิงผู้คนตามรายทางถึงแก่ความตายรวม 9 คน คนร้ายกราดยิงกระสุนนับร้อยนัด โดยยิงคนในรถเสียชีวิตและบาดเจ็บ ยังยิงเด็กนักเรียนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และยังเดินไปยิงซ้ำอีก จากนั้นมีตำรวจมา 2 นาย ไม่ทันลงจากรถก็ถูกยิงจนพรุนเสียชีวิต แต่ปรากฏว่า ได้ทราบว่า ภรรยาของผู้บังคับบัญชาไปกินข้าวที่เทอร์มินอล 21 โคราช

 

ย้อนรอย เหตุสลดครบรอบ 2 ปี จ่าคลั่ง กราดยิงโคราช สัญญาปฎิรูปกองทัพไปถึงไหน

-หนุ่ม กรรชัย ตอก "ทิดสมปอง" กลางรายการเห็นมานานแล้ว ตอนเป็นพระไม่กล้าเตือน
-"โจอี้ บอย" เข้ารพ.แอดมิทด่วน หลังเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง
-หัวอกคนเป็นพ่อใจสลาย เชื่อ น้องเต็น สิงร่างหลานสาวคนสนิท เล่าทรมานจนสิ้นใจ

จ่าสิบเอก จักรพันธ์ จึงได้ขับรถเข้าไปในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา มุ่งไปที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ซึ่งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา โดยกราดยิงผู้คนตามรายทาง และจับผู้คนในห้างเป็นตัวประกัน ทั้งยิงถังแก๊ส ทำให้เกิดระเบิดและเพลิงลุกไหม้ในห้าง จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ยังถ่ายทอดสดตนเองขณะก่อเหตุลงเฟซบุ๊กของตัวเอง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้ ตั้งกระทู้สดถามนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงความล่าช้าในการระงับเหตุ และเหตุผลที่ไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยไล่เรียงเหตุการณ์ว่า คนร้ายอยู่ในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ นาน 50 นาที ก่อนเดินทางไปก่อเหตุ ใกล้วัดป่าศรัทธารวม อีก 50 นาที จากนั้นใช้เวลาเดินทางอีก 30 นาที ไปห้างเทอร์มินอล 21 โดยพลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตอบกลับว่า ช่วงเวลาดังกล่าวได้สั่งให้เตรียมกำลังและร่างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไว้หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ตามขั้นตอน

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธของกองทัพ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ตอบข้อซักถามนี้กับสื่อมวลชนว่า กองทัพมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยและป้องกันคลังอาวุธกระสุนมานานแล้ว ทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิด ยามรักษาการณ์ บางหน่วยมีสุนัขร่วมด้วย แต่ในเหตุการณ์นี้ยอมรับว่า มีหน่วยงานที่หละหลวม อย่างไรก็ดี ผู้ก่อเหตุปฏิบัติราชการในหน่วยงานนั้น มีความเชี่ยวชาญช่ำชองทั้งการใช้อาวุธ และรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้จะเพิ่มมาตรการให้รอบคอบรัดกุมยิ่งขึ้น

ซึ่งข้อมูลที่สำคัญของเหตุการร้ายแรงที่เกิดขึ้นนั้น มาจากข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องเงินและการซื้อขายบ้านที่ผู้ก่อเหตุซื้อจากนางอนงค์ รวมถึงคำยืนยันจากพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ที่ระบุว่าทหารผู้ก่อเหตุ "ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ" จึงเป็นเหตุนำไปสู่การหาความจริงเกี่ยวกับธุรกิจของนางอนงค์ พบว่ามีการทำเป็นขบวนการ คือ เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรที่เป็นเครือญาติของนายทหารนำโครงการมาเสนอขายให้ทหารชั้นผู้น้อยในราคาถูก จากนั้นจัดหาเจ้าหน้าที่มาดูแลด้านการอนุมัติเงินกู้ของกรมสวัสดิการทหารบกมาประเมินราคาบ้านให้สูงกว่าความเป็นจริงเพื่อขออนุมัติเงินกู้ในวงเงินที่สูง ๆ โดยผู้บังคับบัญชาเซ็นหนังสือรับรองเพื่อให้อนุมัติเงินได้ง่ายขึ้น แต่ทางกองทัพบกออกมา ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีขบวนการเงินทอน กองทัพและกรมสวัสดิการทหารบกไม่ได้ประโยชน์จากเงินส่วนต่างในการกู้เงิน และเชื่อว่าความขัดแย้งนี้เป็นเรื่องของตัวบุคคล อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางกองทัพบกสั่งตรวจสอบโครงการสวัสดิการทหารและธุรกิจในค่ายทหารทั้งหมด

ย้อนรอย เหตุสลดครบรอบ 2 ปี จ่าคลั่ง กราดยิงโคราช สัญญาปฎิรูปกองทัพไปถึงไหน

แม้เวลาจะผ่านมา 2ปีแล้วนั้น แต่ในโลกออนไลน์ก็ยังคงตั้งคำถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ทวงถามสัญญาในการปฎิรูปกองทัพไปถึงไหน ในเฉพาะเรื่อง การทุจริต และ การกดขี่ชั้นผู้น้อย จนนำมาสู่เหตุการณ์น่าสลดที่เกิดขึ้น  โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น และ บางคนก็ได้เล่าถึงประสบการณ์ในวันดังกล่าว โดยมีเหยื่อจากเหตุการณ์บางรายได้เปิดเผยว่า แทบไม่ได้รับการเยียวยา ประชาชนจำนวนมากเกิดความข้องใจ และเรียกร้องให้ปฏิรูปกองทัพตามที่เคยให้สัญญาแต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในการปฎิรูปกองทัพ แม้เหตุการณ์สุดสะเทือนใจนั้นจะผ่านมากว่า 2ปีแล้วก็ตาม 

แม้ว่า ผบ.ทบ.ในเวลานั้นอย่าง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ได้ให้คำมั่นเอาไว้ว่า จะปฏิรูปกองทัพภายในหนึ่งร้อยวัน อย่างไรก็ตามความคืบหน้านั้นยังไม่ชัดเจน จนนำไปสู่การทวงสัญญากองทัพอีกครั้ง

สำหรับความคืบหน้าเหตุการณ์ที่เกืดขึ้นนั้น ในวันนี้ (8 ก.พ.2565) ที่บริเวณแท่นพระบรรจุเถ้ากระดูกใส่ในเชิงตะกอนป้ายชื่อผู้วายชนม์ หลังวัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีบรรดาญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตหรือผู้วายชนม์ให้เหตุการณ์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ในโอกาสครบ 2 ปีเหตุการณ์จ่าทหารกราดยิงพี่น้องประชานคนบริสุทธิ์ภายในวัดป่าศรัทธารวมแห่งนี้ 9 ศพ จึงได้เดินทางมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์กราดยิงเมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. 2563

ย้อนรอย เหตุสลดครบรอบ 2 ปี จ่าคลั่ง กราดยิงโคราช สัญญาปฎิรูปกองทัพไปถึงไหน

โดยญาติผู้วายชนม์ได้ร่วมกันวางดอกไม้พวงมาลัยดอกมะลิสด ในจำนวนนี้มี คุณยายทองศักดิ์ ศรีเรือน อายุ 82 ปี มารดาของนางอริศรา โชติกลาง อายุขณะนั้น 52 ปี เภสัชกร ผู้วายชนม์ 1 ใน 9 ราย ซึ่งถูกยิงในที่เกิดเหตุภายในวัด เดินทงมาพร้อมสามี และบุตรชาย พี่สาว ญาติๆ พร้อมกับเดินไปลูปแผ่นป้ายชื่อบุตรสาว กล่าวว่า แม่มาหาแล้วนะลูก พร้อมวางพวงมาลัยดอกมะลิสด หน้าแผ่นป้ายทั้ง 9 แผ่นป้าย

ด้านการช่วยเหลือเยียวยาทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อยแล้ว กระทั่งตอนนี้มีตัวแทนจังหวัด สาธารณสุข และที่เกี่ยวข้องไปเยี่ยมเยียนประจำเลย ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ครบ 2 ปีตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังรู้สึกใจหาย และขอให้เป็นเหตุการณ์สุดท้ายและไม่ต้องการให้เกิดแบบนี้กับใครอีกต่อไป

ซึ่งในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 หลวงพ่อกัณหา สุกาโม เจ้าอาวาสวัดป่าทรัพย์ทวีธรรม จะเป็นประธานและแสดงธรรมเทศนา ทอดผ้าบังสุกุลแก่ผู้วายชนท์ ในเหตุการณ์ดังกล่าว ร่วมกับคณะสงฆ์วัดป่าศรัทธารวม ณ ศาลาการเปรียญวัดป่าศรัทธารวม

ย้อนรอย เหตุสลดครบรอบ 2 ปี จ่าคลั่ง กราดยิงโคราช สัญญาปฎิรูปกองทัพไปถึงไหน

ข่าวเด่น

สลด นักเรียนหญิง ม.3 โรงเรียนดังโคราช พลัดตกอาคารเรียน ล่าสุด เสียชีวิตแล้ว

สลด นักเรียนหญิง ม.3 โรงเรียนดังโคราช พลัดตกอาคารเรียน ล่าสุด เสียชีวิตแล้ว

ผู้โดยสารระทึกทั้งลำ จู่ๆ เครื่องบินโดนยิง ขณะลงจอด

ผู้โดยสารระทึกทั้งลำ จู่ๆ เครื่องบินโดนยิง ขณะลงจอด

พ่อ "น้องเฟรม" ร่ำไห้ แจ้งข่าวลูกชายจากไปอย่างสงบ หลังต่อสู้กับมะเร็ง 4 ปี

พ่อ "น้องเฟรม" ร่ำไห้ แจ้งข่าวลูกชายจากไปอย่างสงบ หลังต่อสู้กับมะเร็ง 4 ปี

ชายขับรถไล่ชนคนมาออกกำลังกายในศูนย์กีฬาดัง ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตน่าตกใจ

ชายขับรถไล่ชนคนมาออกกำลังกายในศูนย์กีฬาดัง ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตน่าตกใจ

สถิติหวยลาว หวยลาวออกวันพุธ ผลหวยลาว หวยลาวพัฒนา หวยลาว 13/11/67

สถิติหวยลาว หวยลาวออกวันพุธ ผลหวยลาว หวยลาวพัฒนา หวยลาว 13/11/67

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading