จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 14 ม.ค.65 ที่ผ่นมา พญ.ลลิตา ธีระสิริ หนึ่งในผู้ก่อตั้งศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี และนักเขียนเจ้าของผลงานหนังสือด้านสุขภาพหลายเล่ม ได้ออกมาพูดถึงประเด็นกระแส“ไม่เข้ารับปริญญา” ของนักศึกษาจบใหม่ โดยย้อนไปเมื่อ 50 ปีก่อน ระบุว่า...
เมื่อ 50 ปีก่อน กึ่งศตวรรษมาแล้วสมัยฉันรับปริญญามีเพื่อน 2 คนปฏิเสธไม่เข้าร่วมพิธี โดยอ้างว่าต่อต้านศักดินาแต่คนหนึ่งถูกแม่ด่าหนัก เลยกลับใจเข้ารับปริญญาในวินาทีสุดท้าย ไปเช่าครุยได้ครุยเก่า ๆ ยับย่นมาใส่ เพราะคนอื่นเช่าชุดดี ๆ ไปหมดแล้วซึ่งเขาก็พอใจที่ยังได้แสดงออกว่าต่อต้านศักดินาจากครุยยับ ๆ อันนั้น ต่อมาเพื่อนคนนั้นกลายเป็นอาจารย์ ฉันไม่รู้หรอกว่าเชามีอิทธิพลต่อความคิดเด็กรุ่นใหม่อย่างไร
ก็ สมัยเขารับปริญญา ไม่มีเพื่อนคนไหนฟังเขาสักคนเรื่องต่อต้านการรับปริญญา ไม่มีใครเข้าใจคำว่าศักดินาด้วยซ้ำแต่อย่าเข้าใจผิดนะคะ เพื่อนคนนี้ไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ออกแถลงการณ์ครึกโครมต่อต้านการพระราชทานปริญญาในขณะนี้ ยุคสมัยก้าวไปข้างหน้า สังคมเปลี่ยนศักดินาตามคำจำกัดความเก่าก็เปลี่ยนไปไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ไม่ได้ใครก็ตามที่ติดกับกงล้อประวัติศาสตร์ก็จะตกยุคเช่นเดียวกัน
-เผยแล้ว "Swab" ลึกถึงเพดานจมูก ส่งผลเส้นประสาทรับกลิ่นเสียหายจริงหรือไม่
-หนุ่ม คงกะพัน เคลื่อนไหวแล้ว หลังลือสนั่น ถูกปลดฟ้าผ่า หอบลูก 3 ไปเมืองนอก
-เพจดัง เมาท์ "เรื่องเพื่อน" ผิดใจกันแต่ไม่ขอโทษ สักแต่บอกรัก
จะกระซิบบอกให้ว่า เพื่อนกันที่เป็นเจ้าของกิจการเริ่มพูดกันว่าถ้าคนรุ่นใหม่มาสมัครงาน ต้องขอดูมือถือก่อนละ และใครไม่รับปริญญาก็จะไม่รับเข้าทำงานเพราะถ้ารับมาอยู่ในองค์กรแล้วน่าจะมีปัญหามากกว่า คิดดี ๆ นะลูกหลานเอ๋ยศักดินาคืออะไรอนาคตเป็นของเราเองอย่าตกเป็นเหยื่อของใคร