เรียกว่ากลับมาเป็นกระแสร้อนแรงในโลกโซเชียลอีกครั้งหนึ่ง สำหรับกรณี คลิปเหตุการณ์เมียหลวงบุกไปตามสามี พร้อมระบุว่า "เจ้าแม่คนดังแย่งผัวชาวบ้าน เมียหลวงยังต้องเลี้ยงดูลูกเล็ก ๆ 2 คน แชร์ถึงชมรมที่ช่วยเมียหลวง" จนกลายเป็นประเด็นที่คนจับตาและโยงไปที่ แม่น้ำหนึ่ง เจ้าแม่ใบ้หวยคนดัง ซึ่งแม่น้ำหนึ่งก็ออกมาไลฟ์แถลงเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยบอกว่า ชายคนที่มีประเด็นเป็นแค่ลูกน้อง ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลยอะไรกัน
แต่ดูเมื่อว่าเรื่องดังกล่าวนั้นจะงานเข้าเต็มๆ ไปที่แม่นำหนึ่งซะแล้ว หลังจากที่ "เอิร์น" เมียหลวง พร้อมนายกฤษฎา หรือ ทนายโนบิตะ ได้ออกมาข่าว ข้อเท็จจริงและเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าแม่ใบ้หวย เกี่ยวกับกระแสข่าวที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสามีตน ซึ่งเป็นลูกจ้างนั้น
ภรรยากล่าวทั้งน้ำตาว่าตนเองเป็นเพียงชาวบ้าน และเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีความรู้อะไรมากมาย ไม่สามารถที่จะมีเงินมีทองไปต่อสู้กับใครได้ แต่ที่ต้องออกมาในครั้งนี้ก็เพราะว่าจำเป็นจะต้องปกป้องสิทธิของการเป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย และเรียกร้องสิทธิให้แก่ลูกทั้งสองที่ยังเด็ก พร้อมขอบคุณทนายโนบิตะ และเฮียเปี๊ยกที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคตนและลูกทั้งสอง
การฟ้องร้องคดีในครั้งนี้ตนต้องการพิสูจน์ให้สังคมทราบสิ่งที่ตนถูกกระทำเป็นเรื่องจริงและการที่โพสต์เรื่องราวเกี่ยวพฤติกรรมและความสัมพันธ์ของสามีและเจ้าแม่ใบ้หวยคนดังนั้นและเป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนที่โดนกระทำก็คงตกอยู่ในสถานะเช่นเดียวกันกับตนและจะต้องออกมาปกป้องสิทธิของตนเองเช่นกัน
โดย ตลอดเวลาที่เป็นเรื่อง ฝ่ายตรงข้ามพยายามคุกคามต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งคนมาที่ โดยอ้างว่าเป็นทนายของเจ้าแม่ใบ้หวยคนดัง เพื่อเข้ามาเจรจา ทั้งที่ได้มอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการจัดการให้แล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ติดต่อไปหาทนายและกเดินทางมาหาที่บ้าน โดยเคยแจ้งไปแล้วว่าไม่ประสงค์ที่จะเจรจาด้วยให้คุยกับทนายความ เพราะไม่รู้เรื่องข้อกฎหมาย แต่ชายปริศนาดังกล่าวยังเดินทางมาที่บ้าน แต่ไม่ให้พบจึงได้ไปพูดคุยกับญาติซึ่งเป็นพี่สะใภ้ โดยพูดในทำนองข่มขู่ฟ้องร้อง เตือนว่าอย่าเอาไม้ซีกมางัดไม้ซุง
สืบเนื่องจากคำสัมภาษณ์ของภรรยาอย่าง "เอิร์น" นั้น เราจะเห็นว่าคำพูดในบางช่วงบางตอนได้ยืนยันว่ามีหลักฐานที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสามีของตน ซึ่งในวันนี้ทางไทยนิวส์ออนไลน์จะพาไปย้อนดูการจับโป๊ะโดยชาวเน็ตที่ได้มีการงัดหลักฐานซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นหลักฐานเดียวกับน้องเอิร์นหรือไม่ โดย โลกออนไลน์ได้มีการขุดภาพสตอรี่ของแม่น้ำหนึ่งกับฝ่ายชายนำมาเปรียบเทียบกันว่าเหมือนจะเป็นสถานที่เดียวกัน
โลกโซเชียลโพสต์ภาพของแม่น้ำหนึ่งที่มีการไปนั่งกินข้าว รวมถึงภาพโทรศัพท์มือถือที่คล้ายกันกับฝ่ายชาย อีกทั้งยังเป็นบรรยากาศในบ้านหรือสถานที่ต่างๆก็คล้ายคลึงกัน
และอีกภาพที่เป็นที่สนใจคือภาพที่แม่น้ำหนึ่งลงภาพข้อศอกที่มีแผลของใครบางคน ส่วนฝ่ายชายก็ลงภาพข้อศอกที่มีพลาสเตอร์ปิดไว้ นำมาเทียบกันดูรอยแผลเป็นต่างๆว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่
โดยภาพที่แม่น้ำหนึ่งลงนั้นเป็นแผลที่ยังไม่ถูกแปะพลาสเตอร์และเขียนข้อความว่า "เกมส์จ้า" ส่วนของฝ่ายชายเป็นรูปที่แปะพลาสเตอร์แล้วพร้อมข้อความว่า "ขอบคุณครับ" และสติกเกอร์รูปหัวใจด้วย
อีกทั้งยังมีข้อสังเกตเป็นรอยแผลเป็นซึ่งเป็นขีดที่ข้อศอกของรูปภาพทั้ง 2 รูป หลายๆคนบอกว่าน่าจะเป็นข้อศอกของคนคนเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีแชทที่บอกประมาณว่า ไม่อยากหย่า แต่กลับมาได้ไหม พอไม่หย่าแล้วขอให้กลับมา ถ้าไม่รัก ไม่ตามดูทุกวันนี้ ให้โอกาสได้ไหม ครั้งสุดท้าย จะไปขอโทษทุกคนในบ้าน ถ้ามีอีกครั้งจะไม่ขอโอกาสแล้ว เรื่องนี้ผิดเองคนเดียวเอิน ยอมรับว่าไม่ดีและทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้วเข้าใจ ถ้าให้โอกาสอีกครั้ง จะไม่ทำให้เสียใจ จะให้ทำอะไร ยอมทุกอย่าง ทั้งที่ตอนแรกหลังตนจับได้บางอย่าง เขาเป็นคนพิมพ์แชตไลน์มาขอหย่าเองแท้ ๆ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นก็ขอหย่ามาเรื่อย ๆ โดยบอกเหตุผลว่าอยากไปมีใหม่จากนั้นยังได้มีการเผยแชทที่ฝ่ายเมียหลวงนั้นไปขอเรียกเงินกับฝั่งสามี ถ้าอยากหย่าก็จ่ายมา 2 ล้านนั่นเอง
และเมื่อมีการหย่ากันชัดเจน ตนก็จะไม่ยอมให้ลูกไปกับทางฝ่ายชาย ยังไงตนก็ไม่เอาผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ส่วนเงิน 2 ล้านที่ตนเคยบอกว่าถ้าเขาอยากหย่า ก็ให้เอาเงินจำนวนนี้มาแลกนั้น ยอมรับเลยว่าตอนนี้มันเกินเยียวยาแล้ว ดังนั้นหากวันนี้ต่อให้ไม่มีเงิน 2 ล้านตนก็จะหย่า และที่ผ่านมาก็ไม่เคยคิดจะแฉใคร เพียงแค่ขอความเป็นธรรมเท่านั้น
ก่อนที่ในเวลาต่อมานั้นเฟซบุ๊กส่วนตัวของแม่น้ำหนึ่งก็มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับมุมกระจกของห้องห้องหนึ่งที่เมียหลวงบอกว่าสามีกับแม่น้ำหนึ่งถ่ายเหมือนกัน คล้ายกับการผลัดกันถ่ายให้หรือไม่ ล่าสุดแม่น้ำหนึ่งก็โพสต์คลิปแชตที่ลูกน้องตัวเองหลายคนส่งรูปตอนที่ถ่ายกับกระจกมุมนี้มาให้ดู เป็นการยืนยันว่ามุมกระจกนี้ คนที่ถ่ายไม่ได้มีแค่แม่น้ำหนึ่งกับผู้ชายเท่านั้น
ซึ่งต้องบอกว่าที่ไทยนิวส์นั้น นำภาพต่างๆมาย้อนให้ดูกัน เพื่อที่จะให้คุณผู้ชมได้ตัดสินใจกันว่าเรื่องราวดังกล่าวนั้น ใครกันที่เป็นคนผิด แต่ถึงอย่างไรก็ตามประเด็นที่เกิดขึ้นนั้นก็คงเป็นประเด็นร้อนๆ ในหน้าสื่อที่คงต้องติดตามกันต่อไป