คลิปสุดท้าย "ส.จ.ดำ" เข้าหยิบของบนรถ ก่อนเกิดเหตุสลด!

12 พฤศจิกายน 2564
157

ส.จ.ดำ เมืองคอน ก่อเหตุยิง น.ส.ภัทรณัฐ สังข์ประไพ ภรรยา และลูกสาวอีก 2 คน เสียชีวิต ภายในบ้านพักซอยกรุงเทพ-กรีฑา ซ.7 แยก 10

จากกรณี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ส.จ.ดำ เมืองคอน ซึ่งก่อเหตุยิงน.ส.ภัทรณัฐ สังข์ประไพ ภรรยา และลูกสาวอีก 2 คน เสียชีวิต ภายในบ้านพักซอยกรุงเทพ-กรีฑา ซ.7 แยก 10 โดยภายหลังมีรายงานว่าสำหรับผลการชันสูตรทั้ง 4 ศพ ถูกกระสุนปืน ทำลายสมองเป็นเหตุให้เสียชีวิต ส่วนหลังจากนี้ ทางญาติจะนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ ศาลา 2 วัดเทพลีลา ย่านรามคำแหงโดยมีกำหนดสวดพระอภิธรรม 3 คืน

โดยทางด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า เหตุการณ์ ส.จ.ดำที่เกิดขึ้นไม่ติดใจเบื้องหลังอะไร หลักๆ น่าจะเป็นเรื่องหนี้สินของนายธวัชชัย ที่มีจำนวนมาก และไม่รู้ว่าไปมีหนี้สินกับใครบ้าง แต่ทราบว่ามีหนี้สินเรื่องรับเหมา ประมูลงาน ไปกู้เงินเขามา และลงเล่นการเมือง จึงเป็นหนี้สินผูกพันมาเรื่อยๆ คาดว่ายอดเงินหลายสิบล้านบาท และคงแก้ปัญหาไม่ได้ ตนคิดว่าเขาคงเต็มที่แล้ว ไม่อยากปล่อยภาระไว้ให้ลูกต้องลำบาก เพราะเขารักลูกมาก

คลิปสุดท้าย"ส.จ.ดำ" ก่อนเกิดเหตุสลด

และคาดว่าฟางเส้นสุดท้ายอาจมาจากการถูกเร่งรัดหนี้ล็อตเตอรี่ 10 ล้านบาท เนื่องจากทราบว่าวันเกิดเหตุมีการนัดจ่ายหนี้ เบื้องต้น 2,500,000 บาท เเต่อดีต สจ.ดำ ตัดสินใจก่อเหตุก่อนที่จะพบหน้านายสมรักษ์ เพื่อใช้หนี้ 

 

- เปิดอาณาจักร “เพชร สหรัตน์” ธุรกิจน้ำปลาร้า ที่ได้จดทะเบียนการค้า อเมริกา

- นศ.สาว ร้องเพลงกลางตลาดหารายได้ เจอตำรวจสั่งให้เบาเสียง เจอทัวร์ลง

- สั่งปิดแล้ว 3 โรงเรียน พบโควิดระบาด ครู-นร.ติดเชื้อ หลัง เปิดเทอมได้แค่ 3 วัน

และล่าสุดทางรายการ ทุบโต๊ะข่าว AmarinTV34 ได้เปิดเผยคลิปช่วงเวลา ประมาณ 11.47 น. ถึงก่อนเที่ยง โดย ส.จ.ดำ ขับรถออกมาจากบ้าน และจอดรถไว้ที่หน้าบ้าน ก่อนจะเดินไปหยิบถุงที่รถสีขาวอีกคันที่จอดอยู่ด้านหลังรถคันแรก ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าจะเป็นถุงปืน

คลิปสุดท้าย"ส.จ.ดำ" ก่อนเกิดเหตุสลด

ขณะที่ภรรยา ส.จ.ดำ ยังเดินเก็บผ้าที่ตากไว้อยู่หน้าบ้าน โดย ส.จ.ดำ เดินไปที่รถอีกรอบและเดินเข้าบ้านลักษณะเครียดกระสับกระส่าย โดยยังเดินไปมาอยู่หน้าบ้านในรั้วบ้าน แต่ไม่ได้ออกมาจากตัวบ้านแล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดดังกล่าว 

คลิปสุดท้าย"ส.จ.ดำ" ก่อนเกิดเหตุสลด

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว AmarinTV34

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews