thainewsonline

เฮียฝา เศรษฐีแจ้งความลูกเลี้ยงดูดเงิน 50 ล้าน ปวดใจรักเหมือนลูกแท้ๆ

21 ตุลาคม 2564
เฮียฝา เศรษฐีแจ้งความลูกเลี้ยงดูดเงิน 50 ล้าน ปวดใจรักเหมือนลูกแท้ๆ

เฮียฝา เศรษฐีพิษณุโลกแจ้งความลูกเลี้ยงดูดเงิน 50 ล้าน ปวดใจรักเหมือนลูกแท้ๆ แต่เขากลับทำกับเราได้ ล่าสุดได้เข้าแจ้งความแล้ว

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2564 นายประเสริฐ แก้วผกาผ่องศรี หรือ "เฮียฝา" ซึ่งเป็นเศรษฐีร้อยล้านแห่งตลาดหนองตม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้ร้องขอความเป็นธรรมหลังถูกลูกเลี้ยงยักยอกเงินในบัญชีกว่า 50 ล้านบาท และเมื่อตรวจสอบพบว่ามีการโยกย้ายเข้าบัญชีของลูกเขยซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการธนาคาร ส่วนลูกสาวเป็นลูกเลี้ยง เป็นลูกติดของภรรยา

โดยลูกชายคนโตของเฮียฝาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันที่ 13 ตุลาคม ว่า ได้รับการติดต่อจากธนาคารส่วนกลางโทรศัพท์แจ้งว่า วันนี้จะได้รับการติดต่อจากธนาคารอีกครั้ง ให้รอรับโทรศัพท์ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นตนยังไม่ทราบเพราะว่าสายที่โทรมาแจ้งไม่ได้บอก บอกเพียงวันนี้ธนาคารจะติดต่อหา ซึ่งตนเองรอโทรศัพท์อยู่ว่าทางธนาคารจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นว่าอย่างไร รวมถึงจะสอบถามบัญชีธุรกรรมทางการเงิน หรือสเตทเมนท์แบบละเอียด 6 บัญชี จาก 9 บัญชี ที่ยังไม่ได้รับว่าอย่างไร เพราะว่าตนและพ่อรอสเตทเมนท์เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินมานานถึง 2 ปีแล้ว

 

ลูกเลี้ยงสูบเงิน 50 ล้าน ลูกเลี้ยงสูบเงิน 50 ล้าน

 

ทางฝั่งพี่เขยอดีตผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาตนแล้ว พร้อมยืนยันว่าส่วนที่เขาได้ไป ดำเนินการถูกต้องทุกอย่างเพียงเท่านั้น ซึ่งตนก็ยืนยันเหมือนกันว่าที่ตนและพ่อออกมาพูดก็ถูกต้องเช่นกัน ก่อนจะวางสายไป
 

ด้านเฮียฝาเผยติดใจ เนื่องจากเมื่อไปดูหลักฐานการโอนเงินมีความผิดปกติ เราดีกับเขาแต่เขาไม่ดีกับเรา เอาเปรียบพ่อแม่ นับตั้งแต่แบ่งมรดกกันไม่มีการพูดคุยกัน ตอนแบ่งเงินกันเราก็ไม่ว่า แต่เขาเอาเปรียบเอามากเกินไป

 

เฮียฝา เศรษฐีพิษณุโลกเปิดใจถูกลูกเลี้ยงยักยอกเงิน 50 ล้าน เฮียฝา เศรษฐีพิษณุโลกเปิดใจถูกลูกเลี้ยงยักยอกเงิน 50 ล้าน

 

กระทั่งล่าสุดวันที่ 21 ตุลาคม 2564 มีรายงานความคืบหน้าว่าธนาคารได้ให้สเตทเมนต์ส่วนที่เหลืออีก 6 บัญชีจนครบถ้วนแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อตรวจสอบดูกลับพบว่ามีการถูกถอนโดยไม่มีการใช้สมุดคู่ฝากตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 จนถึงปี พ.ศ.2557 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 199 ล้านบาท

ซึ่งทางธนาคารได้ติดต่อมาแล้วและนัดพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ 26 ต.ค.นี้ และหลังจากมีการเผยแพร่ข่าวออกไปคู่กรณีก็ยังไม่ติดต่อมาพูดคุยหรือชี้แจงใดๆ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นลูกเลี้ยงแต่ก็รักเหมือนลูกแท้ๆ ส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาทุกคน ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะต้องมีเรื่องขึ้นโรงพัก จึงต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

Thailand Web Stat