อนุทิน ปรับแผนฉีดวัคซีนโควิด กระตุ้นเข็ม 3 ให้ปชช.ได้ทันที
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ปรับแผนการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เริ่มได้ทันที ส่วนวัคซีนเด็ก มีเพียงพอและมีความปลอดภัย เริ่มฉีดวัคซีนตามแผนต้นเดือนตุลาคมนี้
วันนี้ (15 ก.ย.2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนในขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีศักยภาพในการฉีดวัคซีนวันละ 900,000 -1,000,000 คน ซึ่งวัคซีนก็ได้รับการส่งมอบจากผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ ย้ำจะฉีดวัคซีนให้ครบทุกคนทั่วประเทศ
ส่วนแผนการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก โดยตามข้อมูลเด็กอายุ 12-18 ปี มีประมาณ 5 ล้านคน ซึ่งในกลุ่มนี้จะได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่มีการรับรองใช้ได้กับกลุ่มเด็กตั้งแต่อายุ 12 ขึ้นไป และวัคซีนมีเพียงพอ เนื่องจากสั่งจองวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดส แบ่งฉีดให้กลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ประมาณ 10 ล้านโดส ส่วนวัคซีนไฟเซอร์จะใช้ในกลุ่มประชาชนพื้นที่เสี่ยงซึ่งทางกรมควบคุมโรคได้กำหนดแผยการกระจายวัคซีนไว้แล้ว โดยในอนาคตถ้ามีวัคซีนชนิดไหนสามารถฉีดในเด็กเล็กได้ กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งดำเนินการจัดหาในทันที
ขณะที่การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ซึ่งเดิมทางกระทรวงสาธารณสุขมีแผนจะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนประชาชนในต้นเดือนตุลาคม แต่ขณะนี้จำนวนวัคซีนที่ได้รับมีเพียงพอ สามารถปรับแผนการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ได้ในทันที ทั้งนี้ ทางกรมควบคุมโรคจะดำเนินการเสนอแผนในการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ในระยะต่อไป ส่วนแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข้าชั้นผิวหนังแทนกล้ามเนื้อ นายอนุทิน ระบุว่า ...
"หลังจากทดลองฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังในบางกลุ่ม พบอาการผื่นแดงบริเวณที่ฉีด ผู้เชี่ยวชาญจึงเห็นสมควรให้ฉีดวัคซีนวิธีเดิม เพราะไม่ต้องการให้เกิดดรามาภายหลัง" ประกอบกับวัคซีนมีเพียงพอ จึงยังไม่จำเป็น แต่อาจจะเป็นแผนสำรองในกรณีวัคซีนมีไม่เพียงพอ
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ ได้กระจายไปให้แต่ละจังหวัดสต็อกเก็บไว้ จังหวัดละ 50,000-500,000 เม็ด ขึ้นอยู่กับขนาดของแต่ละจังหวัด นอกจากนี้ ยังพิจารณาจัดซื้อยารักษาโควิดเพิ่มเติมจากประเทศเยอรมนี หลังมีข้อมูลว่าใช้รักษาผู้ป่วยโควิดได้ผลดี