หนุ่มอินเดีย สลบไป 7 วัน หมอบอกไม่มีทางรักษา ให้พ่อแม่ทำใจ กลายเป็นอัจฉริยะ
เรื่องราวสุดแปลกของชายหนุ่มอินเดีย สลบไป 7 วัน หมอบอกไม่มีทางรักษา ให้พ่อกับแม่ทำใจ ตื่นมากลายเป็นอัจฉริยะ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดแปลก สำหรับหนุ่มอินเดียรายหนึ่ง ที่ต้องกลายเป็นอัจฉริยะ จากเหตุการณ์ทางสมอง และตอนนี้เขาถูกยกให้เป็นมนุษย์ที่คิดเลขไวที่สุดในโลก
หนุ่มคนนี้มีนามว่า นีลากันธา ภานุ ปรากาช หรือ ภานุ หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงภานุยังเป็นเด็กที่เกือบจะต้องอำลาโลกใบใบนี้ไปแล้ว เขามีเหตุทางสมองจนต้องหลับไปนานถึง 7 วัน คุณหมอก็ช่วยอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไม่เป็นผล และบอกให้ครอบครัวทำใจไว้ดีดี เพราะผลออกมาว่าเขาอาจจะเป็นผู้ที่ปัญหาทางสติปัญญาไปตลอดชีวิต แต่ใครจะไปคิดว่า 15 ปีต่อมา เขากลับเป็น "มนุษย์ที่คิดเลขเร็วที่สุดในโลก" ไปได้
เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า เมื่อตอนที่ ภานุ อายุได้ 20 ปี และได้รับการจดบันทึกลงในสถิติของอินเดีย ซึ่งเป็นรางวัลที่เทียบเท่ากับ เนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ในฐานะ "มนุษย์ที่คิดเลขเร็วที่สุดในโลก" เขาสามารถคำนวนเลขในใจโดยมีความเร็วกว่าสมองคนทั่วไปถึง 10 เท่า แม้แต่โจทย์ที่ยากและซับซ้อนก็สามารถหาคำตอบได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
หลังจากเขาโด่งดังจนมีคนมากมายให้การยอมรับความสามารถนี้ แต่คนที่รู้เรื่องราวชีวิตเขากลับไม่มีใครเชื่อว่าครั้งหนึ่งเขาเกือบลาโลกนี้ไปแล้ว แถมคุณหมอยังบอกว่าจะมีปัญหาด้านสติปัญญาอีก
เจ้าตัวเปิดเผยอีกว่า ผมยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้เป็นอย่างดี แต่ไม่อยากพูดออกมา ตอนนั้นอายุแค่ 5 ขวบเอง รถที่เขานั่งมานั้นปะทะกับรถบรรทุกจนเขาล้มลงไปติดถนน แน่นอนว่ารักษาตัวอยู่นาน สลบอยู่หลายวัน ตอนฟื้นมาก็ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่ได้ไปโรงเรียนเป็นปีๆ ช่วงพักฟื้น ผมได้เรียนรู้การเล่นหมากรุกและการไขปริศนาเพื่อพัฒนาระบบสติปัญญา เพื่อให้สมองยังทำงาน มีกระบวนการคิดอยู่ตลอด ๆ
จากเหตุการณ์นั้นมันยังทิ้งร่องรอยในใจให้กับพ่อแม่ เพราะสภาพผมมันดูไม่ได้จริง ๆ พ่อแม่ทุบกระจกในบ้านทิ้งเพื่อปกป้องความรู้สึกผม ผมก็ตัดสินใจเลยว่าต้องทำทุกวิธีเพื่อลบรอยในใจท่านให้ได้ ผมรู้ว่าผมชอบอะไร ผมถนัดอะไร ผมจะไม่ให้เหตุการณ์ในวันนั้นตามติดชีวิตผมไปตลอด ผมต้องพิสูจน์ตัวเอง
ทั้งนี้ ผ่านมาจนถึงปี 2550 เขาอายุได้ 7 ขวบ เขาได้ลงแข่งคณิตคิดเลขไวระดับรัฐมาครองจนได้ด้วยอันดับที่ 3 พ่อกับแม่ภูมิใจถึงกับต้องร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว เขาบอกว่า ผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมทำให้พ่อแม่ร้องไห้นั้นคือรางวัลที่ได้ แต่มันเป็นความรู้สึกตื้นตันและดีใจที่ว่าลูกชายของเค้าไม่ได้เป็นคนที่มีปัญหาด้านสติปัญญา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews