เรียกได้ว่าสิ้นสุดการไล่ล่า เมื่อ “อดีตผู้กำกับโจ้” ถูกจับกุม ซึ่งหลังจาก อดีตผู้กำกับโจ้ มาถึงกองบังคับการปราบปรามแล้ว ก็มี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7, พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องร่วมสอบปากคำ
ทนายตั้ม ห่วงความปลอดภัยผู้ที่ส่งเบาะแส-คลิป
ซึ่งขณะนั้นสภาพอดีตผู้กำกับโจ้ หลังเข้าขอมอบตัวก็มี สีหน้าแววตา เศร้าหมอง หมดราศี อีกทั้งอยู่ในสภาพอิดโรย เเละผอมลงไปมาก
จากการเปิดปากสารภาพครั้งแรกของ อดีตผู้กำกับโจ้ ผ่านการโฟนอินโดยมีทนายความส่วนตัว และตำรวจอยู่ด้วยนั้น ก็ได้กล่าวว่า "เหตุที่เกิดขึ้นเพราะต้องการขยายผลยาเสพติดต่อ ที่ต้องกระทำรุนเเรงเป็นเพราะผู้ต้องหารายนี้เป็นรายใหญ่ระดับภาคกลาง แต่พลาดที่ทำให้ผู้ต้องหาเสียชีวิต เนื่องจากอยากได้ข้อมูล ยืนยันไม่เคยมีการข่มขู่เรียกเงิน 2 ล้านบาท จากผู้ต้องหา
ทนายตั้ม ห่วงความปลอดภัยผู้ที่ส่งเบาะแส-คลิป
หลังจากเกิดเหตุเห็นข่าวจับกุมลูกน้อง รู้สึกสงสารลูกน้อง เลยตัดสินใจติดต่อนายตำรวจที่เคารพเพื่อขอมอบตัวที่ จ.ชลบุรี ยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ลูกน้องห้ามเเล้วเเต่ไม่ฟัง ขอรับความผิดนี้เเต่เพียงผู้เดียว อีกทั้ง “อดีตผู้กำกับโจ้” ยังได้เผยจำนวนเงิน ช่วยค่าทำศพครอบครัว “ผู้ต้องหา” หลังใช้ถุงคลุมหัวจนเสียชีวิต ว่าช่วยครอบครัวไปจำนวน 3 หมื่นบาท" ต่อมาได้ถูกถามถึงคนปล่อยคลิป ซึ่ง โจ้ ได้บอกว่า "ผมอโหสิกรรมให้เขา"
ทนายตั้ม ห่วงความปลอดภัยผู้ที่ส่งเบาะแส-คลิป
และหลายคนคงทราบดีอยู่แล้ว ผู้ที่เป็นคนปล่อยคลิปวิดีโอดังกล่าว ก็คือนายตำรวจชั้นผู้น้อย ได้ส่งคลิปให้กับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ต่อมาทนายตั้มได้ออกมาเผยว่าห่วงความปลอดภัยของทุกคนที่ส่งข้อมูลและคลิปฆาตกรรมผู้ต้องหาให้ โดยระบุว่า
ทนายตั้ม ห่วงความปลอดภัยผู้ที่ส่งเบาะแส-คลิป
"สิ่งหนึ่งที่ผมกังวลเป็นอย่างมาก คือความปลอดภัยของทุกคนที่ส่งข้อมูลและคลิปฆาตกรรมผู้ต้องหาให้ผม พวกเขาไม่ได้อยู่ในที่สว่างแบบผม ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้าง มันไม่ง่ายเลยนะครับ ที่ใครสักคน จะกล้าเปิดโปงฆาตกรที่มีพฤติกรรมโหดร้ายแบบนี้ ยังไงฝากทุกคนเป็นกำลังใจกันด้วยนะครับ"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews