เปิดจดหมาย ลูกน้อง ผกก.โจ้ ร้องเรียน รู้สึกผิดเห็นนายเป็นโจรในเครื่องเเบบ
เเฉต่อเนื่องหลังทนายตั้มโพสต์คลิปฉาว กับข้อความสุดสะเทือนใจ เปิดจดหมายจากลูกน้อง ผู้กำกับโจ้ เกิดรู้สึกผิด พัวพันคดีรีดเงิน 2 ล้าน
กรณีที่ทาง เพจของ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เปิดคลิปผกก.โจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งคลิปสุดฉาวดังกล่าว ผู้กำกับโจ้ ได้รีดเงิน 2 ล้าน จนทำให้ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาได้ขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ทนายตั้มเผยว่า ผมได้รับคลิปนี้มาจากตำรวจชั้นผู้น้อย ขอให้ผมช่วยนำคลิปนี้มอบให้แก่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝากบอกผมว่าให้ช่วยตามคดีนี้ก่อนที่พวกตนจะถูกปลิดชีพ ผมได้เห็นคลิปนี้แล้วพูดไม่ออก นี่เป็นสิ่งที่ทำกับคนด้วยกันเหรอ ผู้ต้องหาก็ผิดที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย แต่ตำรวจทำอย่างนี้ก็ไม่ต่างกับโจรในเครื่องแบบ ขอให้ทุกคนดูด้วยสายตาตัวเองนะครับ
คลิปนี้ผู้ต้องหาที่ถูกใช้ถุงคลุมน่าจะเป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้วนะครับ ทั้งที่แขนยังถูกจับมัดไว้ด้านหลังไม่มีหนทางสู้ใดๆ ไม่มีโอกาสแม้จะร้องขอชีวิต ดูกันเอาเถอะครับ ห้อง05 ห้องกาแฟ นอกจากนี้ ทนายตั้ม ยังเผยผ่านเพจอีกว่า ในวันที่25ส.ค.64 ผมจะเปิดหลักฐาน ตบทรัพย์ซ้อนตบทรัพย์ รอชมในเพจนี้ที่เดียวครับ
ทั้งนี้ได้มีการเปิดเผยจดหมายของ ลูกน้องชุดจับกุม 05 เกิดความรู้สึกผิด ทำหนังสือร้องเรียนไปถึงผู้บังคับบัญชาโดยตรง....การร้องเรียนเรื่องนี้เกิดจากผู้ใต้บังคับบัญชาในชุดจับกุมรายหนึ่ง เกิดความรู้สึกผิด ที่ได้เห็นเหตุการณ์หัวหน้าในสังกัด แสดงพฤติกรรมโหดร้าย ในการทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิต และเกรงว่า ทีมชุดจับกุมทุกคนจะมีความผิดไปด้วย โดยทำจดหมายร้องเรียนไปถึงผู้บังคับบัญชาโดยตรง
“ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับน้องเค้าด้วยนะครับ และขอความเป็นธรรมกับพวกผมด้วยครับ เพราะท่าน ผกก.ท่านมักอ้างเสมอว่า ท่านเป็นสายตรง พล.ต.ท.(ต) และเป็นลูกเขยกับท่าน ผู้บัญชาการ …… แถมยังอ้างกับพวกผมอยู่บ่อยๆว่า ท่านสนิทกับ ท่าน ……
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ผมกับชุดยาเสพติดของสภ. เมืองนครสวรรค์ ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ จับกุมผตห.พร้อมของกลางมาสองคน เป็น ผู้ชายกับผู้หญิง ซึ่งทั้งสองคนเขาเป็นแฟนกัน พอมาถึงก็จับแยกสอบปากคำ ผมอยู่คอยเฝ้าดูอยู่กับผตห.ที่เป็นผู้หญิง ใช้เวลาอยู่สักพัก หน.ชุดที่คุย กับผตห.ผู้ชาย ก็เดินไปบอกกับ ผกก.ว่า …นายครับ มันยอมจบที่ 1 ล้าน ผกก.ผมตะโกนตอบกลับมาอย่างเสียงดัง (ได้ยินกันหลายคน) “ล้านเดียวจะไปพออะไร ….เรียกมันสองล้านซิว่ะ …..พวกมึ**ไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวก**เอง หลังจากนั้นผกก.ผมก็เดินมาหา ผตห.ชาย เพื่อต้องการทรมานน้องเค้าเพราะอยากได้เงินเพิ่มอีก1ล้าน…
ด้วยเหตุผลอะไรพวกผมไม่ทราบ ปรากฎว่าน้องผตห.ขาดอากาศเสียชีวิต ผกก.แกก็เลิ่กลั่ก ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่สั่งพวกผมว่า พวกมึ**ไปลบกล้องวงจรปิด แล้วเอาร่างไปส่งที่โรงพยาบาล บอกกับหมอว่า มันเสพยาเกินขนาดนะ แล้วก็สั่งให้หน.05 (ชุดยาเสพติด)ไปคุยกับ ผตห.หญิงว่าแฟนมันช็อคเพราะยา แล้วตกลงว่าไม่ต้องพูดอะไรเพื่อแลกกับอิสรภาพ หลังจากนั้นก็ส่งร่าง มีผลในทางคดีชันสูตรพลิกศพ ในวันที่ 6 สิงหาคม
พวกผมพร้อมจะให้รายละเอียดและปากคำครับ แต่ตอนนี้ขอยังไม่เปิดชื่อจริงนะครับ สิ่งที่พวกผมรู้สึกแย่เข้าไปอีกคือ หลังจากเกิดเหตุ ผกก.ผมก็เรียกพ่อน้องคนตาย แล้วเอาเงินอุดปาก โดยที่แกพูดกับพวกผมว่า “กลัวเห**อะไร เงินซื้อได้ทุกอย่าง”
ทีแรกตอนท่านมารับตำแหน่ง พวกผมก็แอบดีใจนะครับ เพราะค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต พบว่า ท่านผกก.แกรวย มีฐานะ ขับรถเฟอเรอรี่ อยู่สังคมไฮโซ เคยคบหามีแฟนเป็นดารา หน้าตาท่านผกก.ก็ดูดี แถมยังเป็น “จิตอาสาพระราชทาน” รุ่นแรก … ดีใจกันใหญ่เลยครับ มีคนดีเป็นพ่อพระมาแล้ว เบี้ยเลี้ยง ค่าน้ำมันหรือความสุขต่อประชาชนจะดี แต่ที่ไหนได้ครับ “นี่มันโจรในคราบเครื่องแบบชัด” คนเรามันดูที่ภายนอกไม่ได้กันจริงๆ”
ขอบคุณ
สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews