คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบ เปิดประเทศอย่างปลอดภัย

23 สิงหาคม 2564
16

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ มาตรการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย ภายใต้การควบคุมโรคแนวใหม่

วันนี้ (23 ส.ค.2564) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ

คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ

1. มาตรการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย ภายใต้การควบคุมโรคแนวใหม่ เตรียมรองรับระยะเปลี่ยนผ่านจากช่วงที่เป็นภาวะวิกฤตไปสู่การเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยการเปิดประเทศจะทำได้ต่อเมื่อดำเนินมาตรการครบถ้วน ได้แก่

- การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร พัฒนาการหาจัดวัคซีนใหม่ๆ แบบครบวงจร

- ส่งทีม CCRT เคลื่อนที่เร็วตรวจค้นหาเชิงรุกด้วยชุด ATK ในพื้นที่ระบาด ฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กลุ่มเสี่ยง

- ประชาชนต้องเคร่งครัดมาตรการป้องกันตัวแบบครอบจักรวาล โดยตระหนักอยู่เสมอว่า ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อ จึงต้องระวังตนเองตลอดเวลา 
 

2. เห็นชอบหลักการมาตรการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and seal) สำหรับสถานประกอบกิจการที่พบการติดเชื้อเกิน ร้อยละ 10 แยกไปรักษาที่รพ.สนาม และเฝ้าระวังคนที่เหลือให้สามารถทำงานต่อไปได้ เมื่อครบ 28 วัน ตรวจภูมิคุ้มกัน ผลดีคือ ไม่ต้องปิดโรงงาน 

3.เห็นชอบร่างกฎกระทรวง เรื่อง การแจ้งกำหนดวัน เวลา และสถานที่ที่พาหนะจะเข้ามาถึงด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวง เรื่อง การยื่นเอกสารต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พ.ศ. ....เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับพาหนะจากต่างประเทศที่จะเข้ามาประเทศไทยทั้งในด่านบก เรือ และอากาศ

4.สนับสนุนให้มีผู้แทนของสมัชชาสุขภาพจังหวัดร่วมประชุมในคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบมติคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ เห็นชอบให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนสปุตนิกวี เดินทางเข้าร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอมติ คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ ต่อที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก และ ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป โดยรายละเอียดของมาตรการขอให้ติดตามจากมติ ศบค.

คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่ามาตรการเปิดประเทศด้วยการควบคุมโรคอย่างปลอดภัย จะพิจารณาแบบเป็นขั้นเป็นตอนและประเมินเป็นระยะๆ ว่าหลังครบกำหนดล็อกดาวน์วันที่ 31 ส.ค.64 จะมีการพิจารณาทบทวนมาตรการ เพื่อกำหนดว่ามาตรการให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย ตั้งแต่เดือน ก.ย.ไปจนถึงปลายปี 64 ต่อเนื่องไปถึงปี 65 ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ตามมาตรการควบคุมโรค ที่เสนอก็จะสามารถผ่อนคลายมาตรการ และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้

มาตรการเปิดประเทศ นอกจากพิจารณาจากสถานการณ์ประจำวันแล้ว ยังต้องพิจารณาแนวโน้มการตรวจค้นหา เปอร์เซนต์การตรวจ อัตราการตรวจ การกระจายของโรค อัตราการป่วยหนัก อัตราการเสียชีวิต และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ระบบสาธารณสุขที่รองรับได้ในแต่ละพื้นที่ จากความร่วมมือของประชาชนและทุกภาคส่วนทำให้ขณะนี้สถานการณ์ระบาดมาถึงจุดพีคแล้ว คาดว่าแนวโน้มการติดเชื้อจะลดลง แต่ช่วงนี้ยังเป็นจุดเปราะบาง จึงยังต้องรอดูอีก 3-4 วัน ก่อนพิจารณาคลายมาตรการ ซึ่งจะประเมินสถานการณ์ในอีก 2-3 สัปดาห์

สำหรับนโยบายเปิดประเทศภายใน 120 วัน นพ.โอภาส กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้สัญญาณเปิดประเทศ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องเปิดทั้งประเทศ ทุกพื้นที่ กรณีภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นตัวอย่าง แม้จะมีผู้ติดเชื้อในพื้นที่แต่สามารถควบคุมได้ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ

“การเปิดประเทศอย่างปลอดภัย ยังมีตัวแปรอีกมาก ตอนที่นายกฯ ประกาศนโยบายยังไม่มีสายพันธุ์เดลตา ทั้งนี้สายพันธุ์เดลตาเป็นตัวเปลี่ยนเหตุการณ์ทั่วโลก แม้แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ในบางวันมีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่าแสนคน หรือประเทศอิสราเอล ที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากร ก็ยังมีการติดชื้อใหม่ ทุกอย่างต้องประเมินสถานการณ์ จะเปิดได้กว้างแค่ไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์” อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุ