นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากประกาศเคอร์ฟิวและล็อกดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เริ่มโอนจ่ายเงินรอบแรกไปแล้ว วันที่ 4 - 6 ส.ค. วันละ 1 ล้านคน โอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนของผู้ประกันตน ม.33 ใน 9 ประเภทกิจการ พื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา
โดยในช่วง2 วันที่ผ่านมา 4 - 5 ส.ค. มีผู้ประกันตน ม. 33 รับเงินโอนคนละ 2,500 บาท จำนวน 1,829,387 คน คิดเป็นร้อยละ 92 ยังมีผู้ประกันตนที่รับเงินไปแล้ว มีจำนวนรวม 170,613 คน ที่โอนเงินไม่สำเร็จ
- สาเหตุยังไม่ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนสูงถึงร้อยละ 90 จำนวน 157,058 คน
- สาเหตุอื่นๆ เช่น บัญชีปิด/ไม่มีความเคลื่อนไหวร้อยละ 7 จำนวน 13,553 คน ผูกพร้อมเพย์กับเบอร์โทรศัพท์
- สาเหตุอื่น ๆ อีกร้อยละ 1 ทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือการโอนรอบแรกนี้
ดังนั้น ขอให้เร่งตรวจสอบข้อมูลตนเอง หากเช็กแล้วว่าเงินยังไม่เข้าบัญชีให้รีบไปติดต่อธนาคารด่วน หรือหากยังไม่ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน ให้รีบไปดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน โดยสามารถทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ ของธนาคารที่มีบัญชีอยู่ หรือบัญชีปิด/ไม่เคลื่อนไหวแล้ว ให้ดำเนินการเปิดบัญชี และผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ 9 ส.ค. 2564 เพื่อรอรับเงินช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งสำนักงานประกันสังคม จะโอนให้อีกรอบในวันศุกร์ที่ 13 ส.ค.โฆษกแรงงาน ระบุ
ทั้งนี้ ในวันที่ 7 ส.ค. นี้ สำนักงานประกันสังคมจะเปิดให้ผู้ประกันตน ม.33 ตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th พร้อมแจ้งสาเหตุกลุ่มตกหล่นว่าเหตุใดจึงโอนเงินเข้าบัญชีไม่ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews