เรื่องมีอยู่ว่า ระหว่างขับรถกลับบ้าน เจอน้องผู้ชายคนหนึ่งเดินแบกถุงใส่ขวด 2 ถุงใหญ่ ในบริเวณตรอกวัดมหาธาตุ ไม่ใส่รองเท้า ท่ามกลางฝนตกหนักทันทีที่เห็นน้องรีบจอดรถเข้าข้างทาง ตอนนั้นไม่คิดอะไรเลย คิดจะไปส่งน้องที่บ้าน ถามน้องบ้านอยู่ไหน น้องบอกอยู่เขาหลวง กำลังจะเดินไปรอพ่อที่ศาลาหน้าวัดคงคา บอกว่าเดี๋ยวพ่อมารับ พ่อไปเก็บขวดอีกที่ ไม่ยอมให้ไปส่งที่บ้าน ยังไงก็จะรอพ่อ คงจะกลัวพ่อมารับ แล้วไม่เจอ เราเลยพาน้องขึ้นรถขับไปส่งที่ศาลาหน้าวัด และนั่งอยู่เป็นเพื่อนน้องสักพัก เพราะที่ศาลาไม่มีไฟ ถึงจะไม่เปลี่ยวก็ตามเถอะ
น้องเดินเท้าเปล่าตากฝนเก็บขวด เราเลยเอารองเท้าผ้าใบของลูกชายที่อยู่ในรถให้น้องไป พร้อมน้ำดื่ม 1 ขวด และเงินอีก 100 บาท เท่าที่ช่วยได้ ตัวน้องเปียกไปหมด น้องบอกว่า "มาเก็บขวดไปขายช่วยยาย ยายไม่มีเงิน ขอบคุณพี่มาก เงินนี้ผมจะเอาไปให้ยาย" ยิ่งฟังมันสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก ตัวน้องดูผอมน่าสงสาร น้องเดินมาเรื่อยๆตั้งแต่เขาหลวง น้องอายุ 10 ขวบ ถ้าเป็นเด็กทั่วไปป่านนี้คงนอนเล่นโทรศัพท์ ดูทีวีอยู่บ้านอย่างสบายใจ
ขอชื่นชมที่น้องเป็นเด็กน่ารักกตัญญู ช่วยพ่อช่วยยาย น้องพูดจาเพราะทุกคำ และถามน้องเรียนอยู่ชั้น ป.5 ร.ร.สุวรรณ น้องมีข้าวอยู่กล่องหนึ่งมีคนให้มา น้องไม่กินจะเก็บไว้กินที่บ้านกับพ่อ และยาย นี่แหละนะต้นทุนชีวิตของคนเราไม่เท่ากัน บางคนก็รวย มีกินมีใช้จนเหลือเฟือ บางคนก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาเงินที่ไหนซื้อข้าวกิน อยากให้ผู้บริหารประเทศหันมาใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากคนจนบ้าง เพราะพวกเค้าเหล่านี้ก็เป็นคนเช่นเดียวกับพวกคุณ มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน เพียงแค่พวกเค้าเกิดมาในต้นทุนที่ไม่มีเหมือนคนอื่น