คนดีไซน์ต้องคิดให้หนัก ภาพความเสียหาย บ้านที่ถูกลูกหลง"โรงงานกิ่งเเก้ว "

   จากเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงานกิ่งเเก้ว  บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด บริเวณซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ  ซึ่งล่าสุดเหตุการณ์ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ปลอดภัยเเล้ว

  ซึ่งในโลกออนไลน์ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ค Kandit Rawai ได้เผยภาพความเสียหายบ้านหลังหนึ่ง ประตูกระจกเเตกสุดเสี่ยง จนเกิดข้อถกเถียงกันสนั่น ควรติดตั้งกระจกนิรภัยหรือไม่  บางรายก็ตั้งข้อสังเกตว่ากระจกแตกเพราะแรงระเบิดจริงๆหรือเปล่า 

 

  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมได้รับการแชร์รูปจากคนรู้จักที่อยู่ในละแวกนั้น  พี่น้องคนดีไซน์มองเห็นอะไรกันมั้ยครับ (เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นของโครงการหรือเจ้าของบ้าน) โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้

ทั้งนี้ได้มีคอมเมนต์หนึ่งอธิบายไว้ว่า ในฐานของหมอ กระจกแบบนี้ถ้าโดนบาดไปเส้นเอ็น เส้นเลือด และเส้นประสาทขาดเรียบ เคยต่อแขน ต่อเส้นเอ็น เส้นเลือด เส้นประสาท ไป 11 เส้น ต่อนาน 4 ชั่วโมง จากการที่เด็กวัยรุ่นต่อยประตู
ใครใช้กระจกธรรมดาแนะนำติดฟิล์ม อะไรก็ได้อีกชั้นจะช่วยป้องกันการแตกมาบาดได้นะครับ ถ้าให้ดีเปลี่ยนเป็น temperเหอะครับ

 

ในส่วนความคืบหน้าเรื่องของมาตรการเยียวยาเเละความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น ในวันที่ 7 ก.ค.64  สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายภูมิเศรษฐ พุทธวงศ์ ประธานสภาทนายความสมุทรปราการ เข้าพบว่าที่ ร.ต.ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ เพื่อรายงานผลการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ หลังได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกหมิงตี้

ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการความช่วยเหลือ ให้ดำเนินคดีเรื่องละเมิดและกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายและเรียกค่าเสียหาย จึงแนะนำให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายแก่ร่างกาย เตรียมใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล สภาพบาดแผลต่างๆ ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งควรจะรีบไปพบแพทย์ เพื่อออกหลักฐาเตรียมตัวไว้ รวมทั้งให้สำรวจความเสียหายด้านทรัพย์สิน ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

 โดย นายกสภาทนายความ  กล่าวว่า ในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ที่ คือ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ที่มีบทลงโทษทางอาญาและทางแพ่งกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม ทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายวิธีพิจารณาความคดีสิ่งแวดล้อม และการจัดตั้งศาลพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อมโดยตรง

 ในส่วนของความคืบหน้าล่าสุดนั้น ในวันที่ 7 ก.ค. 64 ทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการ ได้ให้ประชาชนที่พักอาศัยในระยะ 2-5กม.จากโรงงานกิ่งเเก้วกลับเข้าบ้านได้เเล้ว

 

  โดยนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมคณะ แถลงความคืบหน้าการควบคุมและจัดการพื้นที่เพลิงไหม้ บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 โดยนายวันชัย กล่าวว่า จากการเกิดเหตุการปะทุของสารเคมีจนเกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นระยะ ขณะนี้ปัญหามี 2 ส่วน คือสารเคมีภาคพื้นดินที่ไหลออกมาจากตัวถังขนาดบรรจุ 2,000 ตัน ขณะเกิดเหตุมีปริมาณสารสไตรีนโมโนเมอร์ 1,600 ตัน ได้ไหลออกมาเป็นเชื้อเพลิงส่วนหนึ่ง

และบางส่วนได้เผาไหม้ไปแล้ว ยังไม่แน่ชัดว่าเหลือในถังอีกจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งการประชุมได้มีการแยกดำเนินการออกเป็น 2 ชุดได้แก่ ชุดแรกจะจัดการกับสารเคมีในสถานที่เกิดเหตุ บริเวณภาคพื้นต้องใช้สาร  encatsulator เข้าไปควบคุม เพื่อเปลี่ยนของเหลวไม่ให้เกิดการติดไฟอีกครั้ง โดยจะเริ่มฉีดในเวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนในถังจะมีวิธีการอีกแบบ

สำหรับประชาชนตอนนี้ได้มีการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุสรุปว่าเวลา 17.00 น. ให้ประชาชนระยะ 2-5 กม. กลับบ้านได้ ส่วนถนนกิ่งแก้วจะเปิดเวลา 17.00 น. เช่นเดียวกัน ยกเว้นในซอย 19-25 ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปในซอยเพราะยังเป็นพื้นที่ควบคุม

ด้าน พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เผยถึงกรณีประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ว่า กรณีดังกล่าวที่สภ.บางแก้ว ยังไม่มีประชาชนเข้าไปแจ้งความ เพราะพื้นที่รัศมี 5 ก.ม.ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตลอด 24 ชั่วโมง จะยกเลิกภารกิจต่อเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ประกาศว่า เป็นพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย สามารถไปแจ้งความได้ที่ สภ.บางแก้ว  โดยเตรียมบัตรประชาชนไปด้วย และให้ถ่ายรูปหลักฐานความเสียหายที่เกิดขึ้นไว้ สิ่งของที่สามารถประเมินราคาได้ สามารถนำหลักฐานการประเมินไปแจ้ง เพื่อรวบรวมหลักฐานความเสียหายต่อไป

ขอบคุณ
Kandit Rawai